iannnnn's Blog, page 15

October 29, 2014

#กรุ๊ปไลน์ครอบครัว

เมื่อเช้าทวีตไปว่างี้ครับ


พ่อเราไปหาภาพแบบนี้มาจากไหนกันเยอะแยะนะ วงการไลน์คนแก่นี่เจ๋งจริงๆ pic.twitter.com/Gk3qiGyicr


— (´-ω-`) (@iannnnn) October 29, 2014



คือพ่อผมชอบส่งอะไรแบบนี้มา แต่ละวันจะมีคำทักทายพร้อมแนบภพในสไตล์ที่ทำให้สงสัยอยู่เสมอว่าเฮ้ย ทำไมชีวิตเราถึงไม่เคยผ่านสังคมที่มีภาพพวกนี้เลยวะ แต่พ่อกลับเป็นคนที่ส่งอะไรแบบนี้มาได้ทั้งวัน ในแวดวงไลน์ของพ่อจะต้องมีอะไรแบบนี้เป็นทรัพยากรอยู่อีกเยอะแหงๆ เลย


แล้วก็มีชาวทวิตภพทยอยแบ่งปันภาพจากประสบการณ์ส่วนตัวมาเพื่อช่วยย้ำให้มั่นใจว่า #กรุ๊ปไลน์ครอบครัว นั้น ช่างคัลต์อย่างน่ามหัศจรรย์


@iannnnn หนูได้รูปนี้ค่ะ จากคุณแม่ ถถถถถถถถถถ pic.twitter.com/19inQmltbL


— ปาก้าคนถ่อย (@khangarn) October 29, 2014



@iannnnn พี่ที่ออฟฟิสแกมีส่งมาใหม่ทุกวันเลย มาทุกสีครบ 7 วัน


— เรนจวี้(= 'ェ' =)7 (@rainzii) October 29, 2014



@iannnnn pic.twitter.com/NdTjKYZcXY


— Vladimir S. (@twometre) October 29, 2014



@iannnnn ในกรุ๊ปญาติได้อันนี้มาค่ะ ….. pic.twitter.com/Tt0qhBHzMU


— ณ ทุ่งบางกะปิ (@sandy222) October 29, 2014



@iannnnn นี่ๆ ของวันนี้ นึกว่าจะไม่มีแล้ว 5555 pic.twitter.com/X206wveJFO


— เรนจวี้(= 'ェ' =)7 (@rainzii) October 29, 2014



@iannnnn สงสัยเหมือนกันค่ะ มีตั้งแต่วันจันทร์ยันอาทิตย์ -_-


— May (#゚Д゚) (@memochoco) October 29, 2014



@iannnnn pic.twitter.com/9RB4ltjWYl


— เอิร์ทสู้กับแสตท (@Earthiizz) October 29, 2014



@rainzii @iannnnn วันนี้ได้อันนี้มา pic.twitter.com/WBKJpch4ki


— gu.gupree (@gupree) October 29, 2014



@iannnnn ผมได้ pic.twitter.com/20EK8kPvoV


— iBankstory (@ibankstory) October 29, 2014



@iannnnn แม่เล่นเฟซบุ๊คไม่เป็น ลงทุนให้เราสอนเล่น เพื่อไปเซฟรูปจากเพจ"ดอกไม้และคำคม" ค่ะ 5555 pic.twitter.com/F0RCnlmKrh


— Timmyeong (@TimMyeong) October 29, 2014



@iannnnn พ่อผมส่งมาสไตล์นี้ pic.twitter.com/c0mI33GoJj


— Ton ( ˉ ⌓ ˉ ) (@runt8oy) October 29, 2014



@iannnnn จากคนเเปลกหน้า เเต่ส่งมาทุกวัน pic.twitter.com/XoPMErWJBX


— คิโมจิ้ (*≧∇≦*) (@Manan_yun) October 29, 2014



@iannnnn นึกว่ามีแต่แม่เราที่เป็น ชอบส่งประมาณนี้มาให้ทุกเช้าเลย pic.twitter.com/NBuLZNRnkH


— ♠ฉันนี่ คลั่งเมนเลย♤ (@angelxshinki) October 29, 2014



@iannnnn ได้รูปจากแม่มาค่ะ สงสัยแม่ชอบแบบเรียบๆง่ายๆ555555555 pic.twitter.com/1a2MSRWsJL


— เมเม่วิสต้าลูกพรุน (@Maymaevistaz) October 29, 2014



@iannnnn เราได้อันนี้มาแหล่ะ #อวด pic.twitter.com/OVTqtMVTiL


— พี่บุรี(รัมย์)_มังคะ (@Dee_ooG) October 29, 2014



@iannnnn ของแม่หนู… pic.twitter.com/7pcgNEC2L4


— jinx (@C_zir) October 29, 2014



@iannnnn ได้รูปนี้จากญาติในไลน์กรุ๊ปค่ะ –" pic.twitter.com/paxdxV8WVv


— ดออิวอดิว (@d_e_doubleu) October 29, 2014



@iannnnn เราได้อันนี้จากแม่. . . แล้วก้ได้กรูปจากพ่อๆ. รูปไม่เหมือนกันน่ะ แต่ส่งมาเวลาใกล้กัน ๆๆ .. ท่านไปหามาจากไหน. pic.twitter.com/iczUcuKdH6


— ฝูฝูตวนลี่ (@Fufutuanly) October 29, 2014



@iannnnn นี่เลย อะไรไม่รู้ แอ๊บสแทร็คมากพพี่แอน pic.twitter.com/XOdJA8P3aN


— กสตอ •﹃ • (@korstudio) October 29, 2014



@iannnnn @korstudio อวดบ้าง pic.twitter.com/MKIw9AacjD


— Patinya S. (@ipats) October 29, 2014



@iannnnn ค่ะ… pic.twitter.com/B9Wx77NGi3


— พลอยตวันกามเมอร์ (@ppploytawan) October 29, 2014



@iannnnn @korstudio ตามด้วยอีกรูป รูปอีก่อแบบมีแคปชั่น 555 pic.twitter.com/WXHDqwemlQ


— Patinya S. (@ipats) October 29, 2014



@iannnnn pic.twitter.com/hEqBl3xz2b


— อรเอง (@meehod) October 29, 2014



@Dee_ooG @iannnnn @torcnn นี่ ของแม่เลา pic.twitter.com/7VVxg14hNy


— นัทสึ (@Win_NatSu) October 29, 2014



เห็นไหมว่าคัลต์จนสมควรมีใครสักคนหยิบเอาวัฒนธรรมย่อยอันสุดคูล (ที่มีเฉพาะกลุ่มผู้ใช้ไลน์วัยทอง) นี้มาบันทึกไว้ให้อยู่คู่โลกยิ่งนัก


The post #กรุ๊ปไลน์ครอบครัว appeared first on ไอ้แอนนนนน.คอม.

 •  0 comments  •  flag
Share on Twitter
Published on October 29, 2014 07:54

October 26, 2014

ครอบครัว #ที่ดี

ที่บ้านมีทีวีไว้เปิดยูทูบครับ (ใช้ Chromecast)


ตั้งกติกาให้ลูกไว้ว่าในหนึ่งวันสามารถดูทีวีได้ประมาณ 1 ชั่วโมงเต็มๆ ส่วนมากจะเปิดคลิปจากเพลย์ลิสต์นี้ ส่วนของเมียก็จะเป็นอีกเพลย์ลิสต์นึง ซึ่งในนั้นมีรายการ ‘พี่บาร์นีย์’ ด้วย (พอดีผมไม่มีลิงก์ ลองเข้ายูทูบค้นเอานะ มีเพียบ)


บาร์นี่ย์เป็นรายการเด็ก ตัวละครคือไดโนเสาร์สีม่วงตัวใหญ่เท่าควาย มาเล่นกับเด็กๆ อายุประมาณ 4-5 ขวบ โดยเนื้อหาจะเน้นสอนเรื่องประสบการณ์ชีวิต สร้างเสริมลักษณะนิสัย และการงานพื้นฐานอาชีพให้เด็ก สลับกับร้องเพลงที่พอพากย์ไทยแล้วอาจจะฟังดูประหลาดสักหน่อย เนื่องจากไร้ซึ่งความคล้องจองสัมผัสนอกสัมผัสใจ แต่นิทานก็ยังชอบและฟังบ่อยจนร้องได้ทุกเพลง (มีแต่งเนื้อเองด้วย!)


ทีนี้มีตอนนึงที่เพิ่งเปิดดูเมื่อกี้แล้วประทับใจจนต้องเอามาเขียนบล็อกสั้นๆ นี้ เป็นตอนที่กล่าวถึงการอยู่ด้วยกันเป็นครอบครัว


บาร์นีย์บอกเป็นเพลงว่า ครอบครัวนั้นมีความหลากหลาย บางครอบครัวอยู่กันพ่อแม่ลูก บ้างก็อยู่กับแมว กับสัตว์เลี้ยง หรือบางครอบครัวอยู่แค่ตัวหนูเองและคุณยายแค่สองคน แต่นั่นแหละครอบครัว


และความแตกต่างนี่แหละที่เป็นสิ่งพิเศษ


ดูแล้วสะกิดใจเลยครับ ผมโตมากับเพลงอนุบาลที่เคยร้องมาตั้งแต่ยี่สิบกว่าปีมาแล้วตอนรอเข้าแถวเคารพธงชาติสมัยอยู่โรงเรียนวัด และยังวนเวียนอยู่ในหัวมาจนทุกวันนี้ ไม่รู้มีโรงเรียนไหนใช้เพลงนี้สอนเด็กกันบ้างไหมนะ มันร้องว่า


“บ้านของฉันอยู่ด้วยกันมากหลาย มีพ่อมีแม่ ลุงป้าตายาย มี

ทั้งน้าอาพี่และน้องมากมาย ทุกคนสุขสบายเราเป็นพี่น้องกัน”


ไหนจะการโตขึ้นมาโดยที่ทุกคนต้องแต่งเรียงความส่งครูเรื่องพ่ออันสุดประเสริฐของฉัน แม่อันแสนรักลูกสุดชีวิตที่ไม่มีใครรักมากเท่านี้อีกแล้ว เป็นความรักบริสุทธิ์ในอุดมคติแบบที่พวกควรตอบแทนพระคุณในวันแม่ด้วยการถือพวงมาลัยไปก้มกราบเท้าดอกมะลิบนเวทีโรงเรียนกันเราทุกคน …นึกภาพย้อนไปตอนมัธยมที่ผมหันไปเห็นเพื่อนทำหน้าเจื่อนเพราะมันไม่มีแม่


ในขณะที่ทุกวันนี้ ในฐานะที่ตัวเองก็เป็นพ่อของลูกสาวสองคน คืออยู่ในฐานะบุพการีเรียบร้อยแล้ว ผมก็ยังได้ยินคนหลังบ้านที่ดูภายนอกก็ปกติดีเหมือนชนชั้นกลางในกรุงเทพฯ ทั่วไป แต่กลับแหกปากตะเบ็งเสียงด่าและตะคอกลูกชายอายุเท่ากันกับนิทานเป๊ะๆ ด้วยความโมโหร้ายขาดสติ และขาดคุณสมบัติความเป็นแม่ที่ดี (แบบที่กระทรวงวัฒนธรรมอยากเห็น) อย่างชัดเจน คือด่าตะคอกแม้กระทั่งเวลาลูกร้องไห้ อีแม่ก็กรี๊ดดดดดดดดดดดด เสียงดังไปแปดบ้าน (ดังกว่าลูกเยอะ) แล้วตะคอกให้ลูกเงียบด้วยโทนเสียงสูงหวีดแหลมดังกว่าเดิม มลพิษทางเสียงนี้มีให้ได้ยินแทบทุกวัน!


เวลาที่ผมไปยืนล้างจานในครัวแล้วได้ยินเนื้อหาที่เจ๊แกด่า (จะอุดหูหรือเปิดเพลงกลบยังไงก็ได้ยิน เพราะบ้านเป็นตึกแถว เสียงมันส่งถึงกันง่าย) หลายครั้งไม่ใช่เรื่องที่จะต้องโมโหและไปใส่พิษให้ลูกเลยแม่้แต่น้อยนะ ตัวอย่างเช่น เรื่องการที่ถามลูกก่อนตอนอยู่เซเว่นว่าหิวนมไหม แล้วลูกบอกไม่หิว แต่พอมาถึงบ้าน ลูกบอกหิวแล้ว อีแม่ได้ยินเข้าก็กรี๊ดแล้วด่าลูกแรงขนาดให้ไปเกิดใหม่ บางวันลูกร้อง อีพ่อก็ทำเสียงกรรโชกให้เงียบ (เด็กมันจะเงียบไหม) ฯลฯ


คือมึงเป็นแม่ที่ไม่ควรให้เด็กไหว้เลยนะ แล้ววันแม่เด็กมันจะเขียนเรียงความส่งครูยังไง


ผมจำได้ว่าทวีตเรื่องนี้บ่อยครั้งเพื่อหาทางระบายความหงุดหงิดให้ชาวบ้านรับพลังลบไปบ้าง กูจะได้โล่งๆ คือมันอัดอั้นมาก ชีวิตนึงผมเครียดกับเรื่องแค่ไม่กี่เรื่องหรอก เรื่องนี้ถือเป็นหนึ่งในนั้น


พอมาดูรายการของเด็กฝรั่งเรื่องการยอมรับและเข้าใจความหลากหลาย (แบบไม่ต้องพยายามอะไรเลยนะ มันเกิดขึ้นมาอย่างเป็นธรรมชาติอยู่แล้ว) แล้วก็รู้สึกอิจฉาขึ้นมาอีกหน่อย อย่างน้อยก็เอาไว้สอนลูกได้


The post ครอบครัว #ที่ดี appeared first on ไอ้แอนนนนน.คอม.

 •  0 comments  •  flag
Share on Twitter
Published on October 26, 2014 02:32

October 21, 2014

Book Fair 1st Time • ไปงานหนังสือครั้งแรก

วันนี้ไปงานหนังสือมาครับ


02-PA213182

ทีแรกกะว่าจะไปตอนไปนั่งเฝ้าแจกลายเซ็นช่วงเย็นวันที่ 23-24-25 ต.ค.นะ แต่อยู่ดีๆ เมียเห็นเราทำท่ากระสับกระส่าย ตื่นเต้นดีใจที่หนังสือเสร็จจากโรงพิมพ์ซะที (เพิ่งวางขายในงานเมื่อวานเป็นวันแรก) เลยอนุญาตให้ไปเที่ยวชมก่อนในวันนี้ เพื่อไปเที่ยวจริงๆ แล้วสามวันตามกำหนดการค่อยไปปฏิบัติหน้าที่


01-PA213181

จนกระทั่งพอไปถึงงานตอนประมาณบ่ายโมง บูธแซลมอนปีนี้รวมร่างกับของบันลือ ก็ดีเหมือนกันนะครับ เด่นมาก เพราะเดินเข้าจากทางรถไฟฟ้าโผล่หัวไปก็เห็นเลย ผมไปแอบด้อมๆ มองๆ อยู่ห่างจากบูธพอสมควร (คืออยากรู้ว่าหนังสือตัวเองขายออกไหม 55555) ก็พบว่าเฮ้ย ท่าทางขายได้เลยนี่หว่า คนหยิบกันเยอะมากๆ …หยิบมาพลิกๆ ดู แล้วก็วาง


การได้เห็นหนังสือตัวเองตัวเป็นๆ วางขายปะปนอยู่กับงานเขียนของนักเขียนและนักวาดที่เราชื่นชม เฮ้ยมันดีมากเลยนะ


03-PA213183

เนื่องจากกล้องที่แบกไปมันเป็นเลนส์ 75mm (x2) เลยสามารถแอบถ่ายไกลๆ โดยเหยื่อไม่รู้ตัวเท่าไหร่ เลยได้เห็นภาพแรกของหนังสือตัวเองบนชั้น ที่พนักงานกำลังจัดอยู่ จากที่มันดีๆ…


04-PA213185

ก็ดันจับให้มันกลับหัว -_-


เออ พอเดินเข้าไปพลิกๆ ดูด้วยความเห่อ แถมยังเปิดดูงานคนอื่นด้วยความอิจฉา ก็มีผู้อ่านหลายคนดันรู้ว่าไอ้แว่นนี่เป็นคนเขียน ก็พุ่งเข้ามาต่อแถวให้เซ็น เลยเซ็นไปเหงื่อแตกไปด้วยความประหม่า


ตอนยังไม่ได้เขียนหนังสือ ผมก็ไม่เคยรู้หรอกครับว่าประโยชน์ของการเซ็นหนังสือคืออะไร ทำไมต้องไปขอลายเซ็น ทำไมนักเขียนต้องมานั่งยิ้มแห้งๆ ให้คนมาขอลายเซ็น แล้วถ้าวันหนึ่งเราเขียนหนังสือเองขึ้นมา ใครมันจะอยากได้ลายเซ็นกู …คือเอาตัวเองเป็นที่ตั้งไง รู้สึกว่าการที่เราชอบหรือไม่ชอบหนังสือสักเล่มนี่ มันควรเป็นเพราะเนื้อหาในเล่ม ไม่ได้ชอบเพราะคนเขียนเป็นดารา


แต่พอก้าวเข้ามาสู่วงการนี้ ได้เซ็นไปสัมภาษณ์คนอ่านไปว่าคิดยังไงกัน แน่ใจแล้วเหรอที่จะให้เซ็น ฯลฯ ก็พบว่าวินาทีนั้นมันมีค่ามากครับ นี่ไม่ได้จะตอบเอาใจแม่ยกหรืออะไร แต่เฮ้ย มันเจ๋งจริงๆ เพราะตอนที่มันยังเป็นต้นฉบับดิบๆ นั้น คนที่ขลุกอยู่กับหนังสือมีเพียงเราและกอง บ.ก.ผู้เหี้ยโหด (โทษๆ พิมพ์ตก) เท่านั้น แต่พอหนังสือเสร็จออกมาเป็นเล่มแล้ว โอกาสที่เราจะได้คุยกับคนที่ต้องการจะสื่อสารด้วยแบบตรงๆ ไม่ได้ผ่านหน้าจอโซเชียล แต่ได้เห็นหน้ากันตัวเป็นๆ อุ่นๆ นิ่มๆ (นี่มึงคุยหรือไปแต๊ะอั๋งเขาวะ) คำตอบของธรรมเนียมการเซ็นหนังสือที่เคยเป็นสิ่งไร้สาระสำหรับผมนั้นมันพรั่งพรูออกมาเลย ขอบคุณมากๆ นะครับ


อ้าวลืม นี่มันบล็อกโชว์ภาพนี่หว่า งั้นเข้าเรื่องต่อนะ


05-PA213186

ลุงเนลสัน (ต้องเรียกว่าปู่นะที่จริง) กลายเป็นสัญลักษณ์นำโชคของค่ายนี้ไปแล้ว ถึงขนาดมีทำสติกเกอร์มาขายด้วย (สติกเกอร์จริงๆ)


สักพักก็เดินไปบูธอื่นๆ ครับ (มีแก้ว @kejuliso มาเดินเป็นเพื่อนด้วย กลัวจริงๆ ว่าคนอื่นจะเข้าใจว่าสองคนนี้แอบมาเป็นชู้กันแบบลับๆ ตอนเมียผมเฝ้าลูกอยู่บ้าน …ถ้าใครเข้าใจแบบนั้นแต่ไม่กล้าถามต่อหน้า ผมจะบอกให้นะครับว่ากูก็เลือก)


06-PA213188

บูธอะบุ๊กมีน้องคนขายน่ารักที่เขาร่ำลือกัน น่ารักจริงๆ ด้วย! มัวแต่ดูน้อง ไม่ได้ดูหนังสือเลยครับ (จะดีไหมวะ) เดี๋ยวไปคราวหน้าจะอุดหนุนนะ (อุดหนุนหนังสือ?) อุดหนุนน้อง! …เฮ้ย จะชงเองทำไม


07-PA213193

แล้ววงการหนังสือนี่มีความน่ารักอยู่อย่าง คือในงานจะมีการฝากวาง กระจายหนังสือไปยังร้านอื่นๆ เพื่อให้เข้าถึงเหยื่อได้ง่ายขึ้น ดูเป็นวงการที่เหมือนจะโหด แต่ก็กลมเกลียวกันดี (อย่างภาพด้านบนนี่ไปเจอที่โอเพ่นบุ๊กส์ ใครจะไปนึกว่าสำนักพิมพ์นี้จะมีหนังสือตลกปัญญาอ่อนวางขายด้วย)


08-PA213194

หรือที่บูธสายน้ำ (คนขายน่ารัก) ก็มีเล่มแรกของผมฉบับพิมพ์ครั้งแรกสุด (พิมพ์ครั้งต่อมาปกจะไม่เจาะรูแบบนี้นะ) ไปวางขายในราคา 50 บาท โคตรถูกจนอยากเหมามาเก็บในครัว คือเนื้อหาข้างในมันยังคุ้มเกิน 50 บาทอยู่เยอะเลยนะครับ ไปจัดมาได้


09-PA213202

โชคดีมีวาสนาได้เจอสองเล่มนี้วางเรียงกันในสักบูธ


10-PA213205

วันนี้วันธรรมดานะครับ (วันอังคาร) แต่คนมาเดินกันยั้วเยี้ยเลย ถามน้องๆ ในแซลมอนบอกว่านี่ถือว่าน้อยนะถ้าเทียบกับเสาร์อาทิตย์ …ไม่อยากจะนึกภาพ


11-PA213209

วนกลับมาแซลมอน เจอเขาวางแผงนิตยสารแจกฟรียี่ห้อยีราฟ เป็นเล่ม 0 ด้วย วางไว้ข้างหน้าเลย แต่คนหยิบกันเร็วมาก และพนักงานก็เอามาเติมเร็วมาก ส่วนสาวข้างหลังที่ตัวสูงๆ พอจะเป็นพรีเซ็นเตอร์ยีราฟได้นั่นคือปลารี่ คนเขียน ‘โสดนี้ไม่ลืม’ ภาคต่อจาก ‘โสดนี้อีกนาน’ (เราจะไม่พูดถึงปลาในทางเสียหายปลาวาดน่ารักจริงๆ แถมเล่มนี้มีรูปนึงเป็นครอบครัวเราด้วย)


12-PA213212

อันนี้เป็นเข็มกลัดสลอธที่ทางสำนักพิมพ์ทำไว้… น่ารักง่ะ


13-PA213213

ซึ่งที่จริงมันต้องวางแนวนี้นะ


14-PA213215

กลับมาถึงบ้านพร้อมสำรวจความเสียหาย นี่ส่วนหนึ่งจากที่แบกหลังแอ่นกลับมาครับ (ที่เหลือพอถ่ายเสร็จจะเขียนบล็อกแล้วเพิ่งเหลือบไปเห็น ช่างเถอะ อันนั้นหนังสือแนวจริงจังกับชีวิต) เรียกว่านอกจากหนังสือแปะสติกเกอร์ที่ซื้อมาฝากลูกและจากเพื่อนนักเขียนท่านอื่นๆ แล้ว ไอ้ที่เล็งไว้ว่าจะไปจัดในงานและจัดมาแล้ววันนี้ก็เป็นการ์ตูนล้วนๆ เลย (ปึกดราก้อนบอลนั่นแพงสุดครับ เพราะหนาเป็นศอก)


15-PA213216

และสุดท้าย โฆษณาเล่มนี้อีกที Sloth Machine: กำเนิดมนุษย์ชิล


เล่มของจริงสวยง่ะะะะ ตายตาหลับไปอีกเทอม :25:


The post Book Fair 1st Time • ไปงานหนังสือครั้งแรก appeared first on ไอ้แอนนนนน.คอม.

 •  0 comments  •  flag
Share on Twitter
Published on October 21, 2014 06:06

October 19, 2014

ขอแนะนำหนังสือ Sloth Machine: กำเนิดมนุษย์ชิล / by iannnnn

เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา กดดูคลิปเลยครับ



เรื่องของเรื่องมันเริ่มมาจากการที่อยู่ดีๆ ผมก็ลาออกจากงานประจำ (ที่รายได้ดี) โดยที่ไม่ได้มีปัญหาอะไรกับใคร อดีตเจ้านายเรียกไปถามก็บอกไปตรงๆ ว่าขี้เกียจ


พอลาออกเสร็จแล้วก็มานั่งเลี้ยงลูกและอ่านการ์ตูนเป็นงานหลักอยู่ที่บ้าน ส่วนงานรองคือสกรีนเสื้อขาย รับงานออกแบบกรุบกริบ และช่วยเมียทำร้านเดรสแฟชั่น (ลิงก์ SEO นี่มาเต็ม) ซึ่งเรื่องงานนั่นช่างมันเถอะ ในแต่ละวันผมใช้เวลาไปกับมันวันละไม่เกิน 2-3 ชั่วโมง (ยังกะพวกรับจ้างโพสต์สแปมตามเว็บบอร์ด) ส่วนเวลาที่ใช้ไปในแต่ละวันที่เยอะจริงๆ นั้นคือเลี้ยงลูกครับ


ถ้าเทียบกับงานที่เคยทำมาตลอดหลายปี ก็คงเรียกได้แล้วแหละว่าผมเกษียณตัวเองมาอยู่บ้านเลี้ยงลูกเรียบร้อย


ก็คงมีคนสงสัยนั่นแหละว่าอยู่ว่างๆ แบบนี้ ไม่ได้ทำงานทำการอะไรแบบนี้ ลูกสองเมียหนึ่งแบบนี้ แกไม่อดตายเหรอวะ ผมก็บอกไปตลกๆ ว่าอ๋อ กูเกาะเมียกิน (ซึ่งความจริงคือเกาะเมียกิน)


ผมเป็นพวกซื้อหนังสือมาดอง (ส่วนการ์ตูนนั้นอ่านจริงๆ) นี่ดองสารพัดหนังสือที่อยากได้อยากมี สะสมมาได้เป็นเมตรๆ แต่ยังไม่ได้อ่านให้สมกับหน้าที่ของมันซะที จนไม่กล้าโผล่ไปงานหนังสือเพื่อสร้างกิเลสให้กับตัวเองอีกต่อไปแล้ว เพราะมีความรู้สึกผิดบาปฝังอยู่ในใจว่าถ้าตราบใดที่ยังเคลียร์กองภาระที่บ้านได้ไม่หมด การไปซื้อหามาเพิ่มนั้นถือเป็นเรื่องผิดบาป ความผิดบาปในใจนี้ทำให้รู้สึกผิดทุกครั้งที่สำนักพิมพ์เรียกเราว่า ‘นักเขียน’


ตัดภาพไปที่แซลมอน ที่ตอนนี้เป็นที่กล่าวขวัญกันในหมู่นักอ่านกันเยอะมาก ว่าเป็นสำนักพิมพ์ ที่ดี อีตอนผมออกหนังสือไป สอง เล่ม (ทิ้งช่วงห่างกันเล่มละปีพอดีเลยวุ้ย) นั่นก็ไม่รู้หรอกว่ามันดีหรือไม่ เพราะก็เคยคลุกคลีกับที่นี่อยู่แค่เจ้าเดียว เลยคิดว่าที่ไหนๆ เขาก็เป็นงี้กันหมด แต่เปล่าเลย พอหลังๆ มานี้มีโอกาสไปซื้อหนังสือในยุคที่เขาขยันรวมเพจจากเฟซบุ๊กมาอ่าน ก็แทบร้องไห้ ทำไมงานมันเผาจัง เสียดายต้นฉบับออกจะดี — เดี๋ยวๆๆ เข้าเรื่องก่อน สรุปว่าย่อหน้านี้เป็นการอวยว่าแซลมอนนั้น ที่ดี


และเรียกเราว่านักเขียน


ขออธิบายโครงสร้างของสำนักพิมพ์นี้ให้คนที่ไม่ได้เอี่ยวกับวงการนี้ได้เข้าใจง่ายๆ ว่า แซลมอนนั้นมีกองบรรณาธิการเป็นทีมงานฝ่ายต่างๆ แล้วมี บ.ก.เป็นเหมือนโปรดิวเซอร์ของศิลปิน (เล่มนี้คือ บ.ก.กาย – @patikal) ส่วน บ.ก.ใหญ่ ที่เป็นเหมือนหัวหน้าทีม (คืออีแบงค์ – @natchanon) …อ้อ แล้วยังมีสำนักพิมพ์บัน ซึ่งเป็นแฝดน้องที่กุ๊กกิ๊กกว่า ที่เจ๋งคือมีบอสเป็นคุณป้าหัวล้าน (@notsosad) และทั้งหมดอยู่ภายใต้ร่มเงาของบันลือบุ๊คส์อีกที ซึ่งมีท่านผู้นั้นในตำนานที่เรามิอาจกล่าวถึงในทางเสียหายได้ คอยนั่งยิ้มดูอยู่


ความซวยของการเป็นนักเขียนก็คือ บ.ก.จะเข้าใจว่าเรามีอะไรให้เขียนตลอดเวลา ไม่ว่าจะปฏิสัมพันธ์กันผ่านสื่อออนไลน์แขนงไหน การทวงต้นฉบับก็จะเกิดขึ้นในประโยคที่สองทุกครั้ง

“เอาต้นฉบับมาคุยกันเลย” อันนี้เป็นคำตอบเวลาแซวแฟนอีกายว่าน่ารัก

“โอเคพี่ เล่มหน้าออกตุลาเลยนะ” อันนี้โยนมุกอะไรสักอย่างไปให้อีแบงค์ แล้วดูมันตอบ

“ออกเล่มใหม่ซะทีสิ” ส่วนอันนี้ประโยคแรกเลย จากปากท่านผู้นั้นในตำนาน


ผมนี่อึ้งไปเลยครับ


วงการนี้ดูจะหิวกระหายตัวอักษร ตรงกันข้ามกับผมที่โคตรจะขี้เกียจเลยบ่องตรง คือขี้เกียจจนอายอะ ใครมันจะไปเข้าใจวะว่าเวลาเราปฏิเสธงานของใครต่อใครที่มาชวนด้วยคำกล่าวอ้างอื่นๆ ที่สวยงามกว่า เช่น ช่วงนี้ไม่มีเวลาเลยครับ หรือขอดูคิวงานก่อนนะครับ (แล้วเฟดหายไปเงียบๆ) เนี่ย ความจริงแล้วกูขี้เกียจทำงาน! กูอยากชิลอยู่บ้านอ่านการ์ตูน!


พอนานๆ เข้า ไอ้ความชิลนั้นก็เริ่มตกผลึกครับ จนรู้แนวทางของตัวเองแล้วว่าอะไรที่ขัดขวางความชิล ซึ่งเป็นเป้าหมายหลักของชีวิต ผมจะค่อยๆ เขี่ยมันออกไปทีละหน่อย ทีละหน่อย จนตอนนี้ถ้าไม่นับเรื่องลูกที่ยุ่งฉิบหายแล้ว นอกนั้นผมถือว่าตัวเองโคตรประสบความสำเร็จในชีวิตเลย


“โอเคพี่ เขียนเลย เรื่องมนุษย์ชิล” อ้าวอีห่า ไวต่อกลิ่นสุดๆ

“ไม่เอาอะ ขี้เกียจ” ผมตอบมันแบบนี้ซ้ำๆ ตลอดหนึ่งปีกว่าๆ ที่ผ่านมา


ถามว่าพวกมันหยุดความพยายามในการทวงไหม ก็ไม่นะ จนบางทีก็นึกชื่นชมเหมือนกันที่ความมีไฟของคนทำงานมันทำให้เรานึกสนุกไปกับมันด้วย แต่คิดได้แป๊บเดียวก็รีบสลัดออกจากหัว กูจะไม่หลงกลพวกมึง กูจำได้ บรรยากาศสมัยทำเล่มปะป๊าฯ นั่น อีฟรีคลับ (บ.ก.คนก่อน ที่ตอนนี้ลาออกไปเลี้ยงไก่ชนสลับกับเฝ้าบ่อนแถวบ้าน) แม่งทวงเช้าทวงเย็นทวงดึก ทวงทะลุบุกทะลวงจนไม่กล้าแหงนหน้าไปคุยกับหน้าจอ เป็นความเข็ดหลาบและเสี้ยนหนามชีวิตชิ้นใหญ่เท่าที่มนุษย์ขี้เกียจตัวหนึ่งจะถึงมี


จนท่านผู้นั้นในตำนานผู้มิอาจปฏิเสธได้-ได้ดำริขึ้นมาว่า

“แอนควรจะเขียนเล่มใหม่ได้แล้วนะคะ เริ่มเลยค่ะ”

(มีแสงทองเฮ้ากวงเปล่งประกายออกมาจากด้านหลัง)


ครับ ผมเลยเริ่มเลยครับ เดินไปบอกทั้ง บ.ก.เล็ก บ.ก.ใหญ่ และ บ.ก.หัวล้านว่า เดี๋ยวเจอกันครับ ไว้จะไปคุยที่สำนักพิมพ์ อยากเขียนเรื่องที่คุยกันมาตั้งนานแล้ว (หมายถึงเอ่ยปากพูดมาทีเดียวเมื่อนานมาแล้ว) — คือเรื่องชีวิตของมนุษย์ขี้เกียจนี่แหละ


แล้วนรกก็เริ่มขึ้นตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา


ชื่อ ‘สลอธแมชชีน’ นี่คิดขึ้นมาตั้งแต่แวบแรกว่าจะเขียนเรื่องนี้ แล้วดันเสนออีแบงค์ผ่านในแวบแรก แสดงว่าของมันมาจริงๆ ครับ ส่วนที่มาของชื่อนั้นมาจากคลิปนี้



ที่เหลือไปอ่านเอาเองในเล่มละกัน (อ้าว ก็ต้องขายของหน่อยสิ)


พอพูดถึงกระบวนการการทำงานกับอี บ.ก.กายแล้ว ถ้าเปรียบกับฟรีคลับผู้เป็น บ.ก.คนก่อนนั้นออกแนวทวงโหด ไล่ล่าทุกโซเชียลที่ผมไปแวะพักผ่อนหย่อนใจเหมือนกัน แต่สำหรับกาย จะมาแนวเชือดนิ่มๆ มีชั้นเชิง และเหี้ยมเกรียม แบบที่เงื้ออาวุธทีไรก็เข้าเป้าทุกดอก แต่สุดท้ายแม่งก็ทวงงานยิกๆ เหมือนกัน ดั่งได้รับการปลูกฝังค่านิยม 12 ประการมา


มีใครสักคนเปรียบเทียบให้ฟัง (น่าจะเป็นบัฟโฟ่ในตำนานแห่งอะบุ๊ก) ว่า ฟรีคลับมันเป็นฆาตกรโรคจิตถือเลื่อยไฟฟ้าและเตะต่อยกำแพงได้ มาแนวไล่ล่าฆ่าไม่ยั้ง ส่วนกายนี่เป็นแนวมันสมอง วางแผนฆ่าไว้แยบยลแบบเรื่อง SAW แค่ถือไว้จิ้มฟันเล็กๆ แค่ก้านเดียวก็ปลิดชีวิตนักเขียนได้


ก็เพิ่งมาเห็นกับตาตัวเองว่าแม่งจริง


ผลงานเขียนที่ผ่านการเฆี่ยนตีทั้งต่อหน้าและลับหลัง จึงเสร็จสมบูรณ์ออกมาเป็นเล่มจนได้ ที่ลากยาวมาทั้งหมดนี้ก็เพื่อจะขายของครับ ขายเลยนะ


sloth-machine-cover


หนังสือสลอธแมชชีน โดย iannnnn / สำนักพิมพ์แซลมอน

208 หน้า / 180 บาท / โดนจัดเข้าหมวดจิตวิทยาประยุกต์ (ได้ไงวะ)

ของแท้หน้าปกต้องมีรูปสลอธนอนขี้เกียจอยู่บนโลโก้ที่ออกแบบมาสวยงามดั่งใช้ตีนข้างที่ไม่ถนัดปาด บนพื้นหลังสีเขียวๆ เหลืองๆ (มีคนบอกว่าเหมือนสีถังขยะ กทม. เออว่ะ)

เนื้อหาข้างในคุ้นๆ ว่ามี 10 บท แต่ลองอ่านดูจะรู้ว่าแม่งไม่ได้จบเป็นบทๆ เลย นึกอยากจะใส่ก็ใส่ อยากจะเพิ่มก็เพิ่ม อยากจะเขียนการ์ตูนบทไหนก็เขียน บางทีท้ายบทดันยาวกว่าเนื้อหาในบท ฯลฯ อะไรแบบนี้ สนุกดี ทรมานกอง บ.ก. จนกระทั่งงานเสร็จช้ากว่าชาวบ้านเขา งานหนังสือมีไปครึ่งนึงแล้วเพิ่งได้รับข่าวดีเมื่อบ่ายๆ วันนี้เองว่าหนังสือเราเสร็จพร้อมขายแล้ว เย้!


–––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––


พบกับสลอธแมชชีนครั้งแรกที่งานหนังสือ บูธสำนักพิมพ์แซลมอน (X05)

ผมไปประจำบูธช่วงเย็นๆ ห้าหกโมงของวันที่ 23-24-25 ตุลาคมนี้

ถ้าเจอกันทักได้ครับ เมียไม่ว่า ยิ่งทักแล้วซื้อหนังสือด้วยแล้วยิ่งดี

(บรรทัดตะกี้มีคำว่ายิ่งทักด้วย เท่ดี ยิ่งทักษณ์ๆๆๆๆ)


ถ้าไม่ว่างไปงานหนังสือ หรืออยากแง้มอ่านฟรี เชิญที่ minimore.com/mini/slo/

เฮ้ยเว็บเจ๋งนะ มีให้อ่านตั้งบทนึงแน่ะ แถมถ้าซื้อก็ได้ส่วนลดด้วย จิ้มเลย จิ้มม์ม์ม์ม์


The post ขอแนะนำหนังสือ Sloth Machine: กำเนิดมนุษย์ชิล / by iannnnn appeared first on ไอ้แอนนนนน.คอม.

 •  0 comments  •  flag
Share on Twitter
Published on October 19, 2014 10:42

October 9, 2014

!

exmark


(บันทึก)

ลูกทั้งตัวเล็กตัวใหญ่เพิ่งหลับไปตอนห้าทุ่ม

สงสารเมียที่เหนื่อยมาก ซึ่งที่จริงเราแม่งก็เหนื่อยเหมือนกันแต่ไม่ได้ครึ่งหรอก

หลังจากเดือนนี้คงหายเหนื่อย และได้มีเวลากลับมาเขียนบล็อกเยอะๆ เหมือนเดิม


The post ! appeared first on ไอ้แอนนนนน.คอม.

 •  0 comments  •  flag
Share on Twitter
Published on October 09, 2014 10:08

September 16, 2014

[How to] หมดตูดง่ายๆ ด้วยการเป็นแอดมินเพจเฟซบุ๊ก

เข้าเรื่องเลยนะครับ ปั่นต้นฉบับอยู่


เมียผมคลอดลูกสาวคนที่สองเมื่อห้าวันที่ผ่านมา ก่อนคลอดก็เลยตั้งเวลาโพสต์เฟซบุ๊กในเพจร้านนลินฟ้าล่วงหน้าไว้ กะว่าเดี๋ยวตอนช่วงยุ่งๆ ให้นมลูกและพักฟื้นจากแผลผ่าตัด ก็คงไม่ได้มานั่งโพสต์ขายของประจำ


จนกระทั่งเมื่อกี้เห็นเมียเรียกให้หยิบคอมไปให้ดูหน่อย แล้วอีกสักพักก็บอกให้ช่วยดูให้หน่อยว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมโพสต์ในเฟซบุ๊กถึงมีจำนวนไลก์สูงกระโดดขนาดนี้


boosted-01


นั่นคือปกติการโพสต์จากเพจร้านนลินฟ้าจะเป็นแนวขายของรัวๆ หวังเงินล้วนๆ 55555 ไม่ได้มานั่งทักทายจ๊ะจ๋าฝนตกรถติดแบบที่วงการมาร์เก็ตติ้งเขาสั่งสอนกันมา (ประเด็นนี้เคยพูดในงาน Faceblog Talk ไปแล้ว) ดังนั้นโพสต์นึงจึงมีคนไลก์เฉลี่ยๆ 20-30 ไลก์เป็นเรื่องปกติ


แต่กับโพสต์นี้ ล่อไป 6-7,000 ในวันเดียว


แต่ตัวเลขเหล่านั้นไม่ได้ทำให้เมียกรี๊ดเท่า ยอดเงินในบัญชีเราหายไปรวดเดียวเกือบ 7,000 บาท! (ตกไลก์ละบาท)


หลังจากสืบพยาน (ผู้ร้ายปากแข็งมาก ต้องค่อยๆ ตะล่อมถาม) เมียผมก็ตั้งข้อสันนิษฐานว่าคงไปกดโดนในมือถือเข้า


boosted-2


อันนี้แคปหน้าจอมือถือเมียมาให้ดูนะครับ (ขออภัยเปิดโหมดถนอมสายตาไว้ จอมันเลยแดงๆ)


ให้สังเกตว่าการออกแบบที่ชาญฉลาดของซักกะเบิก ทำให้ปุ่ม Boost Post นั้นบวมเป่งน่ากดสิ้นดี ต้องบอกว่าเป่งตั้งแต่อยู่ในหน้าโพสต์ภาพหรือข้อมูลแล้วแหละครับ โดยถ้าเราโพสต์สถานะใดๆ แล้วลองกด Boost ดูสักครั้ง จะเห็นเลยว่ามันจะมีค่า default ที่เป็นการโยนเม็ดเงินเพื่อโฆษณาโพสต์นั้นๆ ให้ชาวบ้านเห็น (ใครที่ตามข่าวเฟซบุ๊กจะเห็นว่าถ้ายิ่งเราเป็นเพจใหญ่เท่าไหร่ ปริมาณการ “เห็น” โพสต์นั้นจะยิ่งริบหรี่ลง ทางเดียวที่จะให้ชาวบ้านเห็นคือจงจ่ายเงิน) ที่เลวคือ มึงออกแบบปุ่ม  Boost มาเด่นกว่าปุ่ม  Post อีก!


แล้วแถบเลื่อนด้านบนก็จะวางไว้ตรงสถานะที่พร้อมจะเสียเงินในระดับที่แพงมากทันทีนะครับ เนี่ยถ้าอยู่หน้านี้แล้วกดตุ่มใหญ่สีน้ำเงินปั๊บ “เงินหายทันทีครับ” …แถมมีข้อความกำกับด้านล่างที่แสดงความหวังดีว่า การที่มึงกดปั๊บแล้วเสียเงินปุ๊บเนี่ยนะ ถือว่ามึงอ่านข้อตกลงและยอมรับแต่โดยดีแล้วนะ เอาผิดไรไม่ได้นะ บัยนะ


จ้ะ อีห่า


โดยปกติแล้วเวลาเมียผมเลือกลงโฆษณาในสินค้าร้านตัวเอง ก็จะหยอดทีละ 2-300 บาทครับ และแยกการประเมินผลเป็นกรณีๆ ไป ซึ่งการตั้งค่าการจ่ายเงินโฆษณาบนเฟซบุ๊กนั้น ทำบนคอม (เดสก์ทอป) จะดีกว่าในมือถือ เพราะมันสามารถปรับแต่งค่าสารพัดได้ละเอียดกว่า (เฟซบุ๊กเป็นเว็บที่ประหลาดมากครับ บางทีเปิดในแอปก็มีฟีเจอร์บางอย่างงอกขึ้นมาสำหรับคนใช้แอปเท่านั้น แต่บางทีเปิดในเว็บเวอร์ชันมือถือกลับสะดวกกว่า และบางทีบนคอมก็ไม่ได้สะดวกเท่ามือถือ ฯลฯ คือวิศวกรและสถาปนิกมึงมีตั้งเยอะแยะแทบจะเป็นอันดับต้นๆ ของโลกเลยรึเปล่าเหอะ ไหงไม่รู้จักหัดดูแลเรื่อง User Experience ให้เป็นไปในทางเดียวกันซะที ตูล่ะหน่าย)


เมื่อเมียผมเห็นเรื่องเสียเงินดังนั้น จึงรีบกด pause แคมเปญทันที จากงบที่ตั้งไว้ 19,600 บาท (โดยไม่ได้ตั้งใจ) จึงเสียจริงๆ ใน 7 ชั่วโมงแค่ไม่ถึง 7,000 บาทเท่านั้น… เฮ้อ ค่อยโล่งใจหน่อย


ซะที่ไหนเล่า!!!


เรื่องนี้จึงสอนให้รู้ว่า



เงินทองเป็นของนอกกาย
ถึงกระนั้น สิ่งที่ทำให้เมียข้าพเจ้ากรี๊ดได้ มีแต่เรื่องเสียเงินเท่านั้น (ตะกี้ขอไทลินอลไปกินสองเม็ด)
คิดจะใช้เฟซบุ๊ก อย่าบ่น มันให้ใช้อะไรก็ใช้ไป ด่าไปก็ไม่มีประโยชน์ ถึงจะรู้ว่าเจตนาการออกแบบของมันเหี้ยมากก็เถอะ
อย่าให้เด็กเล่นโทรศัพท์และเข้าแอปมั่วๆ นะครับ อันตราย อย่างอันนี้ถ้าไม่ได้ระวังให้ดีก็หายไปเกือบสองหมื่นในวันเดียวได้เหมือนกันนะ
แนะนำเดรสแฟชั่นสวยๆ จากร้านนลินฟ้าครับ ช่วยเหลือค่านมลูกและค่ากระเป๋าเมีย (ชุดที่โบว์กดไปผิดนั่นผมช่วยออกแบบด้วยนะ ใช้มือถือจากบล็อกตอนก่อนที่อวยไว้นั่นแหละวาดเอา)

จบ


The post [How to] หมดตูดง่ายๆ ด้วยการเป็นแอดมินเพจเฟซบุ๊ก appeared first on ไอ้แอนนนนน.คอม.

 •  0 comments  •  flag
Share on Twitter
Published on September 16, 2014 06:34

September 9, 2014

พี่แอ๋วโดนผีเด็กหลอก

เนื่องจากเมียจะคลอดลูกสาวในวันมะรืนที่จะถึงนี้แล้ว แถมในโหมดงานเขียนหนังสือ อี บ.ก.กายมันก็เริ่มใช้วิธีทวงต้นฉบับแบบแอดวานซ์ขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นข้าพเจ้าจึงตัดสินใจว่าจะวาดการ์ตูนนินทาลูก (อยู่ในอีกบล็อก) และเขียนบล็อกเล่นเพื่อหนีปัญหาทั้งปวง


และนี่คือส่วนขอบล็อกหนีปัญหา ขอเขียนเร็วๆ เหมือนเดิม ไม่สละสลวยก็ขออภัยครับ


.


พี่แอ๋วเป็นแม่บ้านฟรีแลนซ์ที่มาช่วยทำงานบ้านมาปลายปีแล้วครับ (สมาชิกบ้านผมเป็นพวกสกปรกทั้งผัวทั้งเมียเลยต้องจ้างมาทำความสะอาดทุกอาทิตย์) อุปนิสัยโดดเด่นของแกนอกจากจะคุยเก่งมากจนเป็นเพื่อนเล่นกับนิทานได้อย่างไหลลื่นแล้ว แกยังเป็นนักเล่นหวยตัวยง


ยิ่งแท็กทีมกับแม่ยายผมด้วยแล้ว มีเลขเด็ดที่ไหนยังไงอย่าได้พลาด มีโทรรายงานและติดตามผลกันตลอดแบบเรียลไทม์ (เป็นโซเชียลของคนเล่นหวย)


ล่าสุดช่วงสิ้นเดือนที่ผ่านมา แกขอลาหยุดไปเฝ้าไข้พ่อที่สกลนครครับ หลังจากหยุดไปหลายวัน ก็ได้เจอแกมาจอดจักรยานหน้าบ้าน ทำหน้าตาตื่นแล้วบอกว่า “พี่โดนผีหลอกว่ะแอน”


ผมวางมือจากหน้าที่การงานตรงหน้า แล้วนั่งตั้งใจฟังทันที


แกบอกว่าพี่แกป่วยด้วยโรคคนแก่ เลยไปนอนเฝ้าที่โรงพยาบาล ซึ่งห้องพักคนไข้นั้นมีเตียงผู้ป่วยหลายเตียง และห้องน้ำติดๆ กัน 6-7 ห้อง


พอกลางดึกพี่แอ๋วปวดท้อง บรรยากาศในห้องก็มืดสนิทแบบหนังผีนี่แหละ เลยเดินไปเปิดไฟห้องน้ำแล้วปฏิบัติการกู้โลก ขณะที่แกอุ๊จอยู่ดีๆ ก็ได้ยินเสียงห้องน้ำข้างๆ ที่อยู่ติดกัน “กดชักโครก” แกมั่นใจมากว่าไม่มีใครลุกมาในยามวิกาลแบบนั้นแน่ๆ โอเค นั่นผีชัวร์ ขี้หดตดหายเป็นแบบนี้นี่เอง แกเลยรีบตัดจบธุระส่วนตัวแล้วเปิดประตูออกมา ก็พบบรรยากาศข้างนอกที่เงียบและมืดสนิทเหมือนเดิม


“เสียงท่อจากชั้นอื่นหรือเปล่า คนอยู่คอนโดเขาก็เจอกันแบบนี้” ผมแย้ง

“แต่ห้องพักคนไข้มีชั้นเดียวนะ” แกแย้งกลับ …สรุปว่าเป็นผีละกันนะ จะได้สบายใจ


นอกจากนั้นแกยังบอกอีกว่าพอแกมานอนหลับ แกฝันเห็นผีเด็กมาหาถึงเตียงด้วย! ซึ่งผมก็ไม่ได้สนใจอะไรเพราะเรื่องผีในฝันมันไม่เร้าใจสำหรับพี่ป๋องเท่าไหร่ แล้วเราก็ไม่ได้คุยเรื่องนี้กันอีก จนผ่านไปหนึ่งอาทิตย์ คือวันนี้ พี่แอ๋วมาทำความสะอาดที่บ้านอีกครั้ง


“แอน จำเรื่องผีเด็กที่พี่ว่าได้ไหม” ผมหันไปสนใจอีกที ผีอีกแล้วเหรอพี่แอ๋ว

“จำได้ไหมหวยงวดล่าสุดออก 22″ แหม จำได้สิครับ ผมกับเมียซึ่งไม่ได้สนใจเรื่องวงการหวยเลยสักนิด ก็ได้ subscribe รับทราบข่าวสารจากพี่นี่แหละ แถมงวดล่าสุดแม่ยายผมก็รับทรัพย์มาหลายบาทจากอีเลขนี้แหละ (ร้ายมาก)


“เลขเตียงพ่อพี่มันคือ 22 ว่ะ”

“เฮ้ย งั้นก็รวยเลยสิ”

“รวยอะไร พี่นะอุตส่าห์ตั้งใจจะซื้อ 22 นี่แหละ แต่ผีเด็กมันหลอกพี่”

“ยังไง” (เขียนประโยคละบรรทัดงี้ง่ายดี เดี๋ยวจำไปใช้ในหนังสือมั่งดีกว่า)

“ในฝันคือมันเปิดประตูเข้ามา ยื่นกระดาษเล็กๆ ให้ใบนึง แล้วพี่เห็นว่ามันเขียนว่า 92″

“แล้วพี่ซื้ออะไร”

“92”

“…”

“…”


เคยฟังโจ๊กคลาสสิกประมาณนี้มาก็หลายเวอร์ชัน ไม่คิดว่าจะได้เจอกับคนใกล้ชิดขนาดนี้ แต่เท่านั้นยังไม่พอครับ


“แล้วตอนตีสี่ที่สะดุ้งตื่นมา พี่จะออกจากโรงบาล ก็เห็นว่ามีกระดาษใบเล็กๆ ตกคว่ำอยู่จริงๆ มันคว่ำอยู่ พี่นะขนลุกเลย เหมือนกับในฝันมาก แต่ก็โกยๆ ใส่กระเป๋าติดกลับมาเพราะคิดว่าคงเป็นขยะจะเอาไปทิ้ง แล้วก็ลืม ไม่ได้เปิดดูอีกเลยจนหวยออกนี่แหละก็เพิ่งมาเห็น”

“อย่าบอกว่าในนั้นเขียน 92 แบบที่ผีมาเข้าฝันจริงๆ นะ ถ้าใช่นี่จะสุดยอดเลย”

“เฮ้ย เหมือนกันจริงๆ แต่มันไม่ใช่เลข 92 นะ”


พี่แอ๋วเดินไปค้นๆ ในกระเป๋าสัมภารกของแก แล้วหันกลับมาให้ผมดู


.


.


.


.


.


.


.


.


.


22


มันคือเลขเตียงของพ่อแกนั่นเอง


The post พี่แอ๋วโดนผีเด็กหลอก appeared first on ไอ้แอนนนนน.คอม.

 •  0 comments  •  flag
Share on Twitter
Published on September 09, 2014 01:04

September 6, 2014

September 2, 2014

กาย

ภาคต่อจาก จงบริหารเวลา ครับ


20140902-กาย


ป.ล.

เน็ตที่แรงๆ และโซเชียลที่สุดมันส์นั้นบั่นทอนประสิทธิภาพการทำงานอย่างชัดเจนครับ พิสูจน์แล้วด้วยสันดานตนเอง


ป.อ.

ตอนเขียนคือปะป๊าครองพิภพ มี บ.ก.คืออีฟรีคลับ นั่นว่าโหดแล้วนะ แต่ลีลาการเชือดของอีกายนี่มาแนวเย็นยะเยียบ เรียกว่าเหนือชั้นกว่าอีฟรีขึ้นไปอีก


ป.ฮ.

ทีแรกว่าจะทยอยเขียนรายงานการเขียนหนังสือเล่มใหม่ของข้าพเจ้า แต่ดูจากเดดไลน์แล้ว แม่งไม่มีเวลาแน่นอน (แล้วที่ว่างมาวาดการ์ตูนนี่คือ)


The post กาย appeared first on ไอ้แอนนนนน.คอม.

 •  0 comments  •  flag
Share on Twitter
Published on September 02, 2014 09:09

August 20, 2014

โดน #IceBucketChallengeTH กะเขามั่ง

เห็นมันเข้าไทยทีแรกจากคุณ @markpeak (อ่าน “#IceBucketChallengeTH ขอเชิญ “ราดน้ำแข็งรดตัว” สนับสนุนการบริจาคเพื่อสังคม“) ก็เออ เจ๋งดีว่ะ น่าสนุกดี แต่เพียงวันต่อมา พอมันลามไปถึงทั่นประธานสูงสุดของบริษัทใหญ่ๆ ปั๊บ ก็เฮ้ย ทำไมความตั้งใจในการแสดงป้ายยี่ห้อมันทำให้กิจกรรมนี้ดูน่าเบื่อได้วะ ยิ่งพอไปโผล่ในจอทีวี (ผมไม่ได้ดูทีวี ก็เห็นข่าวดารงดาราเขาทำกันจากในไทม์ไลน์อีกทีนั่นแหละ) เลยรู้สึกด้วยอคติไปว่า มันช่างไม่ถูกจริตเราอย่างแรง เลยรู้สึกว่ามันไม่คูลแล้ว ไม่อยากเล่นแล้ว


จนกระทั่งโดนทักมาจาก @uglypink ด้วยคลิปนี้


จบเลยครับ อุดมการณ์ กลืนเข้าไปหมดเลย


วันนี้พอกลับมาจากไปซื้อของเข้าบ้านตอนบ่ายๆ ก่อนถึงบ้านก็ซื้อน้ำแข็งเซเว่นถุงละ 8 บาทมาใส่กะละมังเติมน้ำรอไว้ บอกลูกเมียให้ไปรอเทจากบนระเบียงบ้าน แล้ววานคุณจุ๋มเพื่อนบ้าน ที่เผอิญยืนคุยกะเมียผมอยู่พอดี เลยให้คอยกดบันทึกให้ จนเกิดมาเป็นคลิปนี้ครับ



แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก ..ตัดต่ออัปโหลดเสร็จทันยีบสี่ชั่วโมงพอดีใช่มะ


บายนะ หนาวสัส!


ป.ล.

ใครสงสัยว่ามันคืออะไร ฝากคลิกดูอันนี้ครับ นั่งปาดเมื่อคืนเอง หลังจากโดนท้านั่นแหละ (เสร็จออกมายังกะโฆษณาลูกอมเย็นๆ)


ป.ฮ.

ทีแรกในไทยยังไม่มีสมาคมสำหรับดูแลผู้ป่วย ALS ครับ ผู้เล่น Ice Bucket Challenge Thailand จึงเลือกบริจาคผ่านองค์กรการกุศลใดๆ ก็ได้ ซึ่งของผมเองนี่ขอสนับสนุนหนึ่งในโครงการระดมทุนเพื่อการกุศลในเว็บเทใจ.คอมครับ เมียเลือกเรียบร้อยแล้วว่าจะเป็นโครงการไหน เดี๋ยวสักพรุ่งนี้คงดำเนินการให้เสร็จสิ้นครับ (ที่จริงคือ “ว่าจะ” บริจาคมาตั้งนานแล้ว แต่อีว่าจะ ว่าจะนี่ก็แปลว่ายังไม่ได้บอเสียที จึงอาศัยจังหวะนี้แหละ นี่แหละครับข้อดีที่เอาไว้ทำให้คนด่าหุบปากได้ (ผมเอง))


ป.ฮ.

ล่าสุดหมอแมวบอกว่าตอนนี้มีแล้วครับ เปิดมาเพราะแคมเปญนี้โดยเฉพาะ นี่ถือเป็นเรื่องดีนะคะ


The post โดน #IceBucketChallengeTH กะเขามั่ง appeared first on ไอ้แอนนนนน.คอม.

 •  0 comments  •  flag
Share on Twitter
Published on August 20, 2014 06:01