ทีปกร วุฒิพิทยามงคล's Blog, page 9
December 15, 2014
วิธีเล่นถุง...
Published on December 15, 2014 18:48
ช่วงนี้วิ่งได้เยอะเป็นที่น่าพอใจ :)
เช้าๆ ตื่นมาไม่เคยอยากไปวิ่งเลยนะครับ
แต่พอไ...
ช่วงนี้วิ่งได้เยอะเป็นที่น่าพอใจ :)
เช้าๆ ตื่นมาไม่เคยอยากไปวิ่งเลยนะครับ
แต่พอไปวิ่งเสร็จแล้ว ก็รู้สึกดีทุกที
เหมือนเอาชนะตัวเองได้สำเร็จ
เช้าๆ ตื่นมาไม่เคยอยากไปวิ่งเลยนะครับ
แต่พอไปวิ่งเสร็จแล้ว ก็รู้สึกดีทุกที
เหมือนเอาชนะตัวเองได้สำเร็จ

Published on December 15, 2014 06:53
December 10, 2014
ลืมเล่าให้ฟังกันไป
ว่าตอนนี้ผมมีการ์ตูนอ่านฟรี
ลงเป็นรายสัปดาห์
ที่เว็บ minimore...
ลืมเล่าให้ฟังกันไป
ว่าตอนนี้ผมมีการ์ตูนอ่านฟรี
ลงเป็นรายสัปดาห์
ที่เว็บ minimore.com นะครับ
เป็นเรื่องเกี่ยวกับความอ้วน
555
ถ้าสนใจลองอ่านกันดูได้นะครับ
(ตอนนี้ลงตอนที่ 2 ละ)
http://minimore.com/b/feeling-awesome/2
02: สู่ร่างสมบูรณ์ - FEELING AWESOME WITH TRAINER
minimore.com
เรื่องเล่าของเด็กวิศวะคอม กระบวนการ CPElizaton และพัฒนาการสู่ร่างสมบูรณ์
ว่าตอนนี้ผมมีการ์ตูนอ่านฟรี
ลงเป็นรายสัปดาห์
ที่เว็บ minimore.com นะครับ
เป็นเรื่องเกี่ยวกับความอ้วน
555
ถ้าสนใจลองอ่านกันดูได้นะครับ
(ตอนนี้ลงตอนที่ 2 ละ)
http://minimore.com/b/feeling-awesome/2

02: สู่ร่างสมบูรณ์ - FEELING AWESOME WITH TRAINER
minimore.com
เรื่องเล่าของเด็กวิศวะคอม กระบวนการ CPElizaton และพัฒนาการสู่ร่างสมบูรณ์
Published on December 10, 2014 06:28
December 8, 2014
บ่อยครั้งที่จู่ๆ มองไปที่แมว
แล้วก็สงสัยว่า อืม...
ทำไมถึงไหลได้ขนาดนั้นนะ
-_-
Published on December 08, 2014 23:41
December 6, 2014
อยากออกไปดูโลกกว้างใหญ่
มีสิ่งต่างๆ ให้ทำมากมายในวันอาทิตย์
แต่...
ต้อง...
ทำ......
อยากออกไปดูโลกกว้างใหญ่
มีสิ่งต่างๆ ให้ทำมากมายในวันอาทิตย์
แต่...
ต้อง...
ทำ...
งาน...
ใครทำงานวันอาทิตย์บ้าง -_-
มีสิ่งต่างๆ ให้ทำมากมายในวันอาทิตย์
แต่...
ต้อง...
ทำ...
งาน...
ใครทำงานวันอาทิตย์บ้าง -_-

Published on December 06, 2014 20:43
December 4, 2014
ผมกับป๊า
======
มีใครสักคนเคยบอกว่าความสัมพันธ์ของลูกผู้ชายที่ซับซ้อนที่สุดกับผ...
ผมกับป๊า
======
มีใครสักคนเคยบอกว่าความสัมพันธ์ของลูกผู้ชายที่ซับซ้อนที่สุดกับผู้ชายด้วยกัน ก็คือ ความสัมพันธ์ของลูกชายกับพ่อ ผมคิดว่านั่นอธิบายความสัมพันธ์ของผมกับป๊าได้ดี
ผมไม่อาจบอกว่าตัวเองสนิทกับป๊าได้ ป๊าเป็นบุคคลท้ายๆ ที่ผมจะเข้าไปหาเมื่อมีปัญหาอะไรก็ตาม อาจเป็นเพราะความดุของป๊าหรืออาจเป็นเพราะความเข้มงวด แต่ก็ไม่น่าเชื่อว่าเมื่อไหร่ก็ตามสุดท้ายต้อง (จำใจ?) เข้าไปหาป๊า ป๊าก็จะมีทางออกให้ผมจนได้ทุกที เลยอาจต้องหมายเหตุต่อมาว่า เราไม่สนิทกัน แต่เราก็ไม่ได้ห่างเหินกันเกินไปนัก
แม้มีช่วงหนึ่งที่ผมต้องสารภาพว่าเป็นช่วงที่ผมเกลียดป๊าที่สุดในโลก เป็นผมในวัยเลือดร้อน มาเจอกับป๊าที่ความเดือดของเลือดคงไม่เคยลดลงเลยตั้งแต่วัยรุ่น ร้อนกับร้อนมาเจอกัน ไฟก็ถูกสุมจนบ้านแตกเป็นธรรมดา เราทะเลาะกันทุกๆ สามวันห้าวัน มักจบด้วยการที่ผมปิดประตูปังขังตัวเองอยู่ในห้องแล้วสบถสาบานว่าจะไม่โตไปเป็นคนแบบนี้ ไม่ว่าด้วยเงื่อนไขใดๆ ก็ตาม
โตขึ้นมาผมถึงเห็นป๊าในตัวผมมากขึ้นเรื่อยๆ
“แชมป์นี่ดุเหมือนป๊าเลยนะ” แม่บอกผมในวันหนึ่งเมื่อเห็นผมตวาดน้องสาวเสียงดัง เป็นการดุด่าเรื่องอะไรผมก็จำไม่ได้เสียแล้ว แต่ผมจำประโยคนี้ได้ ผมจำอารมณ์ในตอนนั้นได้ อารมณ์ที่ถูกปะทุขึ้นเหมือนไฟที่สุมอยู่ในอก มันพล่านเผาออกมาอย่างหาที่ระบายไม่ได้กลายเป็นคำพูดที่เต็มไปด้วยการแสดงถึงอำนาจ
ผมเข้าใจในตอนนั้นเองว่าตอนที่ป๊าดุผมตอนยังเด็ก ป๊ารู้สึกอย่างไร
หลังจากที่ผมเห็นป๊าในตัวเอง ผมก็ไม่เคยไม่เห็นป๊าในตัวเองอีกเลย
ผมเห็นป๊าในวิธีการเดินของตัวเอง ผมเห็นป๊าในการตัดสินใจจะทำหรือไม่ทำอะไร ผมเห็นป๊าในความโกรธ ความเกลียด ความชัง การเดินแบบเท้าแบะออกเล็กน้อย (มันเป็นการเดินที่เป็นลายเซ็นของบ้านเรา) ภาษา วิธีกระแทกนิ้วลงไปบนคีย์บอร์ดเวลาไม่พอใจ การทำร้ายตัวเอง รอยยิ้มหยันโลก วิธีขยับแว่น เสียงหัวเราะ การมองโลกในแง่จริง ความมีเหตุมีผล และอื่นๆ ผมเห็นป๊าในทุกสิ่งที่ผมเป็นและทุกอย่างที่ผมไม่ได้เป็น
ทุกวันนี้ผมเข้าใจป๊าในทุกวันนั้นมากขึ้น ผมไม่สามารถหาคำตอบให้กับทุกการกระทำของป๊าได้ แต่ผมก็เข้าใจที่มาที่ไป ผมเห็นเหตุของป๊า ผมจึงเป็นผลของป๊า ผมรู้แล้วว่าป๊าอาจไม่ใช่คนที่สมบูรณ์แบบ แต่ใครล่ะจะสมบูรณ์แบบบนโลกนี้ ป๊าทำดีที่สุดแล้วด้วยข้อจำกัดในขณะนั้น ด้วยรอยตำหนิและแผลเป็นที่ผู้ชายคนหนึ่งมี ป๊าพยายามอย่างถึงที่สุด และสุดท้ายผลก็ออกมาเป็นผมและน้องๆ ต่างเป็นผลผลิตที่ไม่สมบูรณ์แบบ มีรอยขูดขีด บูดเบี้ยว อย่างที่คนคนหนึ่งควรจะมี แต่ทุกผลก็กลิ้งไปบนเส้นทางของตัวเอง มันอาจไม่มั่นคงบ้าง แต่มันก็เดินบนเส้นทางที่ไม่ได้เลวร้ายหรือตกร่องไปก่อนเวลาที่ควรจะเป็น
นั่นคงเป็นสิ่งที่ผมไม่อาจขอบคุณใครไปได้ นอกจากแม่ และนอกจากป๊า
เราคงไม่ได้รักกันจี๋จ๋าเหมือนพ่อลูกที่ถูกสร้างขึ้นในโฆษณา เรามีความสัมพันธ์ที่ซับซ้อน ลุ่มๆ ดอนๆ แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยังเต็มไปด้วยความผูกพัน..ระหว่าง “พ่อ” และ “ลูกชาย”
----
http://www.thaigoodstories.com/
======
มีใครสักคนเคยบอกว่าความสัมพันธ์ของลูกผู้ชายที่ซับซ้อนที่สุดกับผู้ชายด้วยกัน ก็คือ ความสัมพันธ์ของลูกชายกับพ่อ ผมคิดว่านั่นอธิบายความสัมพันธ์ของผมกับป๊าได้ดี
ผมไม่อาจบอกว่าตัวเองสนิทกับป๊าได้ ป๊าเป็นบุคคลท้ายๆ ที่ผมจะเข้าไปหาเมื่อมีปัญหาอะไรก็ตาม อาจเป็นเพราะความดุของป๊าหรืออาจเป็นเพราะความเข้มงวด แต่ก็ไม่น่าเชื่อว่าเมื่อไหร่ก็ตามสุดท้ายต้อง (จำใจ?) เข้าไปหาป๊า ป๊าก็จะมีทางออกให้ผมจนได้ทุกที เลยอาจต้องหมายเหตุต่อมาว่า เราไม่สนิทกัน แต่เราก็ไม่ได้ห่างเหินกันเกินไปนัก
แม้มีช่วงหนึ่งที่ผมต้องสารภาพว่าเป็นช่วงที่ผมเกลียดป๊าที่สุดในโลก เป็นผมในวัยเลือดร้อน มาเจอกับป๊าที่ความเดือดของเลือดคงไม่เคยลดลงเลยตั้งแต่วัยรุ่น ร้อนกับร้อนมาเจอกัน ไฟก็ถูกสุมจนบ้านแตกเป็นธรรมดา เราทะเลาะกันทุกๆ สามวันห้าวัน มักจบด้วยการที่ผมปิดประตูปังขังตัวเองอยู่ในห้องแล้วสบถสาบานว่าจะไม่โตไปเป็นคนแบบนี้ ไม่ว่าด้วยเงื่อนไขใดๆ ก็ตาม
โตขึ้นมาผมถึงเห็นป๊าในตัวผมมากขึ้นเรื่อยๆ
“แชมป์นี่ดุเหมือนป๊าเลยนะ” แม่บอกผมในวันหนึ่งเมื่อเห็นผมตวาดน้องสาวเสียงดัง เป็นการดุด่าเรื่องอะไรผมก็จำไม่ได้เสียแล้ว แต่ผมจำประโยคนี้ได้ ผมจำอารมณ์ในตอนนั้นได้ อารมณ์ที่ถูกปะทุขึ้นเหมือนไฟที่สุมอยู่ในอก มันพล่านเผาออกมาอย่างหาที่ระบายไม่ได้กลายเป็นคำพูดที่เต็มไปด้วยการแสดงถึงอำนาจ
ผมเข้าใจในตอนนั้นเองว่าตอนที่ป๊าดุผมตอนยังเด็ก ป๊ารู้สึกอย่างไร
หลังจากที่ผมเห็นป๊าในตัวเอง ผมก็ไม่เคยไม่เห็นป๊าในตัวเองอีกเลย
ผมเห็นป๊าในวิธีการเดินของตัวเอง ผมเห็นป๊าในการตัดสินใจจะทำหรือไม่ทำอะไร ผมเห็นป๊าในความโกรธ ความเกลียด ความชัง การเดินแบบเท้าแบะออกเล็กน้อย (มันเป็นการเดินที่เป็นลายเซ็นของบ้านเรา) ภาษา วิธีกระแทกนิ้วลงไปบนคีย์บอร์ดเวลาไม่พอใจ การทำร้ายตัวเอง รอยยิ้มหยันโลก วิธีขยับแว่น เสียงหัวเราะ การมองโลกในแง่จริง ความมีเหตุมีผล และอื่นๆ ผมเห็นป๊าในทุกสิ่งที่ผมเป็นและทุกอย่างที่ผมไม่ได้เป็น
ทุกวันนี้ผมเข้าใจป๊าในทุกวันนั้นมากขึ้น ผมไม่สามารถหาคำตอบให้กับทุกการกระทำของป๊าได้ แต่ผมก็เข้าใจที่มาที่ไป ผมเห็นเหตุของป๊า ผมจึงเป็นผลของป๊า ผมรู้แล้วว่าป๊าอาจไม่ใช่คนที่สมบูรณ์แบบ แต่ใครล่ะจะสมบูรณ์แบบบนโลกนี้ ป๊าทำดีที่สุดแล้วด้วยข้อจำกัดในขณะนั้น ด้วยรอยตำหนิและแผลเป็นที่ผู้ชายคนหนึ่งมี ป๊าพยายามอย่างถึงที่สุด และสุดท้ายผลก็ออกมาเป็นผมและน้องๆ ต่างเป็นผลผลิตที่ไม่สมบูรณ์แบบ มีรอยขูดขีด บูดเบี้ยว อย่างที่คนคนหนึ่งควรจะมี แต่ทุกผลก็กลิ้งไปบนเส้นทางของตัวเอง มันอาจไม่มั่นคงบ้าง แต่มันก็เดินบนเส้นทางที่ไม่ได้เลวร้ายหรือตกร่องไปก่อนเวลาที่ควรจะเป็น
นั่นคงเป็นสิ่งที่ผมไม่อาจขอบคุณใครไปได้ นอกจากแม่ และนอกจากป๊า
เราคงไม่ได้รักกันจี๋จ๋าเหมือนพ่อลูกที่ถูกสร้างขึ้นในโฆษณา เรามีความสัมพันธ์ที่ซับซ้อน ลุ่มๆ ดอนๆ แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยังเต็มไปด้วยความผูกพัน..ระหว่าง “พ่อ” และ “ลูกชาย”
----
http://www.thaigoodstories.com/

Published on December 04, 2014 06:00
December 3, 2014
ปัญหาคลาสสิกนำมาซึ่งสเตตัสที่คลาสสิก
Published on December 03, 2014 08:54
อ่านฟรีจ้า
อ่านฟรีจ้า
Timeline Photos
'FEELING AWESOME WITH TRAINER'
สารพัดเรื่องเล่าจากคนที่ไม่เคยสนใจออกกำลังกาย อ่านออนไลน์ ฟรี! ที่ min.ms/feeling-awesome
อัพเดทตอนใหม่เป็นประจำทุกวันพุธ
จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อ ‘ทีปกร วุฒิพิทยามงคล’ หันหน้าเข้าหายิม?
เขาจะเอาตัวรอดจากภารกิจสุดโหด ‘เทรนเนอร์’ สุดเคร่ง และมีสุขภาพที่ดีได้จริงมั้ย?
อ่านคอนเทนต์ออนไลน์จากนักเขียนและนักวาดมากมายใน minimore originals ฟรี! ได้ที่ minimore.com
@[174050659315503:274:Champ Teepagorn]
#feelingawesome #minimoreoriginals

Timeline Photos
'FEELING AWESOME WITH TRAINER'
สารพัดเรื่องเล่าจากคนที่ไม่เคยสนใจออกกำลังกาย อ่านออนไลน์ ฟรี! ที่ min.ms/feeling-awesome
อัพเดทตอนใหม่เป็นประจำทุกวันพุธ
จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อ ‘ทีปกร วุฒิพิทยามงคล’ หันหน้าเข้าหายิม?
เขาจะเอาตัวรอดจากภารกิจสุดโหด ‘เทรนเนอร์’ สุดเคร่ง และมีสุขภาพที่ดีได้จริงมั้ย?
อ่านคอนเทนต์ออนไลน์จากนักเขียนและนักวาดมากมายใน minimore originals ฟรี! ได้ที่ minimore.com
@[174050659315503:274:Champ Teepagorn]
#feelingawesome #minimoreoriginals
Published on December 03, 2014 06:35
November 30, 2014
ฮีโร่เงียบๆ
======
ป๊าของผมเป็นคนเข้มงวด แต่ความเข้มงวดของป๊าไม่ได้มีไว้เพื่อใ...
ฮีโร่เงียบๆ
======
ป๊าของผมเป็นคนเข้มงวด แต่ความเข้มงวดของป๊าไม่ได้มีไว้เพื่อใช้กับคนอื่นเท่านั้น ทุกครั้งที่ป๊าเข้มงวดกับลูกๆ (‘ทำไมจำไม่ได้สักทีวะว่า 8x9 มันได้ 72!!!’ ในกรณีของน้องของผม หรือป๊าจะโกรธทุกครั้งที่ผมไม่พูด ‘ครับ’ ท้ายประโยคหรือทำหน้าบึ้งใส่)
ทุกครั้งป๊าก็จะกลับไปเข้มงวดกับตัวเองทุกที
ป๊าผิดหวังในตัวเรามากเท่าไหร่ ป๊าก็มักจะกลับไปตั้งคำถามว่าทำไม เพราะอะไรกับตัวเองทุกๆ ครั้ง แล้วป๊าก็จะพยายามหาวิธีอื่น วิถีทางอื่นในการปรับ สอน คุย ทำความเข้าใจ กับพวกเรา จนพวกเราดีขึ้นในแบบที่ป๊าอยากให้เป็น
บางครั้งผมก็มาคิดว่าผมได้อะไรจากวิธีที่ป๊าสอน มากกว่าสิ่งที่ป๊าสอนเสียอีก
หลายครั้งป๊าสอนผมโดยที่ไม่ได้พูดออกมา มันเป็นวิธีมองและปฏิบัติต่อโลกในแบบของป๊า ที่ผมเห็นจนชินตาและจดจำมาเองโดยไม่รู้ตัว
ผมไม่ได้คิดว่าตัวเองเป็นคนดีนัก แต่ก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร ผมเป็นคนปกติอยู่ในเกณฑ์คนธรรมดาคนหนึ่ง
อาชีพการงานของป๊า คือ การเป็นเภสัชกรในโรงพยาบาลรัฐแห่งหนึ่ง ตำแหน่งใหญ่พอตัวตามอายุการงานที่ทำมากว่าสามสิบปี การเป็นเภสัชกรในโรงพยาบาลรัฐ (ที่ใหญ่พอสมควร) เป็นตำแหน่งที่เสี่ยงต่อการหมิ่นเหม่ทางจรรยาบรรณและศีลธรรม เพราะการสั่งยาที่นำมาใช้ในโรงพยาบาลแต่ละครั้งก็มีปริมาณมาก คิดเป็นเงินไม่น้อย และผู้มีอำนาจว่าจะเลือกยาแบบไหน จากบริษัทใด ก็คือหัวหน้าเภสัชกรนี้เอง
จึงเป็นเรื่องปกติที่เซลล์ขายยาของแต่ละบริษัทจะต้องเอาอกเอาใจผู้มีอำนาจโดยการพาไปเลี้ยงข้าวตามร้านอาหารหรูๆ ซื้อของขวัญของฝากมาให้ตามโอกาสพิเศษต่างๆ หรือพาไปทริปพิเศษต่างๆ ที่ถูกตั้งชื่อว่าเป็นการดูงาน ซึ่งสำหรับผม เรื่องเหล่านี้ถือเป็นเรื่องที่ไม่ดี (ใครก็ตอบได้อยู่แล้ว) แต่ถ้าถามว่าถ้ามีคนเสนอให้กับตัว จะเอาไหม ผมก็ไม่สามารถตอบได้อย่างมั่นใจ 100% ว่าจะปฏิเสธ
อย่างที่บอก ผมไม่ใช่คนดีนัก
แต่กลับบ้านครั้งล่าสุด ผมก็ได้เรียนรู้ว่าป๊าของผมเป็นคนดีกว่าผมอย่างแน่นอน อย่างน้อยก็ในแง่นี้
ผมได้เรียนรู้ว่าป๊าไม่เอาเรื่องพวกนี้เลย ป๊าคิดว่ามันไม่ใช่เรื่องที่ควรไปรับค่าผ่านทาง ค่าต๋ง หรือค่าเกรงใจค่ามิตรภาพ เพื่อใช้เป็นเหตุผลในการเลือกหรือไม่เลือกยาตัวไหนเข้ามาใช้ ซึ่งป๊าก็ไม่ได้ป่าวประกาศออกมาว่าฉันเป็นคนดี ฉันจึงไม่เอา ป๊าแค่ไม่เอาเฉยๆ เพราะคิดว่ามันเป็นเรื่องไม่ควร และการทำอย่างนี้ก็ไม่ได้ทำให้ป๊าคิดว่าตัวเองเป็นคนดีมากมายอะไร แค่เป็นคนปกติเฉยๆ
แต่ผมคิดว่ามันมีสิ่งที่เรียกว่าความดีของการมองไม่เห็นว่าตัวเองเป็นคนดีอยู่ และป๊าก็กำลังมีความดีในข้อนั้นอย่างเต็มเปี่ยม
ในวันที่ผมคิดว่าตัวเองโตแล้วและป๊า ‘ไม่มีอะไรจะสอน’ ผมอีกแล้ว ก็กลายเป็นว่าป๊ายังมีอะไรให้เราเรียนรู้ได้เสมอๆ
การเป็นฮีโร่ที่ไม่ได้ต้องมาบอกว่าตัวเองทำอะไรมากมายเพียงใด เป็นผู้กอบกู้หรือเก่งกาจอะไร เขาแค่ทำของเขาไปเงียบๆ และเราจะรู้สึกดีได้ เมื่อเราได้สัมผัส ได้มองเห็นสิ่งดีๆ ที่เขาทำ
======
ป๊าของผมเป็นคนเข้มงวด แต่ความเข้มงวดของป๊าไม่ได้มีไว้เพื่อใช้กับคนอื่นเท่านั้น ทุกครั้งที่ป๊าเข้มงวดกับลูกๆ (‘ทำไมจำไม่ได้สักทีวะว่า 8x9 มันได้ 72!!!’ ในกรณีของน้องของผม หรือป๊าจะโกรธทุกครั้งที่ผมไม่พูด ‘ครับ’ ท้ายประโยคหรือทำหน้าบึ้งใส่)
ทุกครั้งป๊าก็จะกลับไปเข้มงวดกับตัวเองทุกที
ป๊าผิดหวังในตัวเรามากเท่าไหร่ ป๊าก็มักจะกลับไปตั้งคำถามว่าทำไม เพราะอะไรกับตัวเองทุกๆ ครั้ง แล้วป๊าก็จะพยายามหาวิธีอื่น วิถีทางอื่นในการปรับ สอน คุย ทำความเข้าใจ กับพวกเรา จนพวกเราดีขึ้นในแบบที่ป๊าอยากให้เป็น
บางครั้งผมก็มาคิดว่าผมได้อะไรจากวิธีที่ป๊าสอน มากกว่าสิ่งที่ป๊าสอนเสียอีก
หลายครั้งป๊าสอนผมโดยที่ไม่ได้พูดออกมา มันเป็นวิธีมองและปฏิบัติต่อโลกในแบบของป๊า ที่ผมเห็นจนชินตาและจดจำมาเองโดยไม่รู้ตัว
ผมไม่ได้คิดว่าตัวเองเป็นคนดีนัก แต่ก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร ผมเป็นคนปกติอยู่ในเกณฑ์คนธรรมดาคนหนึ่ง
อาชีพการงานของป๊า คือ การเป็นเภสัชกรในโรงพยาบาลรัฐแห่งหนึ่ง ตำแหน่งใหญ่พอตัวตามอายุการงานที่ทำมากว่าสามสิบปี การเป็นเภสัชกรในโรงพยาบาลรัฐ (ที่ใหญ่พอสมควร) เป็นตำแหน่งที่เสี่ยงต่อการหมิ่นเหม่ทางจรรยาบรรณและศีลธรรม เพราะการสั่งยาที่นำมาใช้ในโรงพยาบาลแต่ละครั้งก็มีปริมาณมาก คิดเป็นเงินไม่น้อย และผู้มีอำนาจว่าจะเลือกยาแบบไหน จากบริษัทใด ก็คือหัวหน้าเภสัชกรนี้เอง
จึงเป็นเรื่องปกติที่เซลล์ขายยาของแต่ละบริษัทจะต้องเอาอกเอาใจผู้มีอำนาจโดยการพาไปเลี้ยงข้าวตามร้านอาหารหรูๆ ซื้อของขวัญของฝากมาให้ตามโอกาสพิเศษต่างๆ หรือพาไปทริปพิเศษต่างๆ ที่ถูกตั้งชื่อว่าเป็นการดูงาน ซึ่งสำหรับผม เรื่องเหล่านี้ถือเป็นเรื่องที่ไม่ดี (ใครก็ตอบได้อยู่แล้ว) แต่ถ้าถามว่าถ้ามีคนเสนอให้กับตัว จะเอาไหม ผมก็ไม่สามารถตอบได้อย่างมั่นใจ 100% ว่าจะปฏิเสธ
อย่างที่บอก ผมไม่ใช่คนดีนัก
แต่กลับบ้านครั้งล่าสุด ผมก็ได้เรียนรู้ว่าป๊าของผมเป็นคนดีกว่าผมอย่างแน่นอน อย่างน้อยก็ในแง่นี้
ผมได้เรียนรู้ว่าป๊าไม่เอาเรื่องพวกนี้เลย ป๊าคิดว่ามันไม่ใช่เรื่องที่ควรไปรับค่าผ่านทาง ค่าต๋ง หรือค่าเกรงใจค่ามิตรภาพ เพื่อใช้เป็นเหตุผลในการเลือกหรือไม่เลือกยาตัวไหนเข้ามาใช้ ซึ่งป๊าก็ไม่ได้ป่าวประกาศออกมาว่าฉันเป็นคนดี ฉันจึงไม่เอา ป๊าแค่ไม่เอาเฉยๆ เพราะคิดว่ามันเป็นเรื่องไม่ควร และการทำอย่างนี้ก็ไม่ได้ทำให้ป๊าคิดว่าตัวเองเป็นคนดีมากมายอะไร แค่เป็นคนปกติเฉยๆ
แต่ผมคิดว่ามันมีสิ่งที่เรียกว่าความดีของการมองไม่เห็นว่าตัวเองเป็นคนดีอยู่ และป๊าก็กำลังมีความดีในข้อนั้นอย่างเต็มเปี่ยม
ในวันที่ผมคิดว่าตัวเองโตแล้วและป๊า ‘ไม่มีอะไรจะสอน’ ผมอีกแล้ว ก็กลายเป็นว่าป๊ายังมีอะไรให้เราเรียนรู้ได้เสมอๆ
การเป็นฮีโร่ที่ไม่ได้ต้องมาบอกว่าตัวเองทำอะไรมากมายเพียงใด เป็นผู้กอบกู้หรือเก่งกาจอะไร เขาแค่ทำของเขาไปเงียบๆ และเราจะรู้สึกดีได้ เมื่อเราได้สัมผัส ได้มองเห็นสิ่งดีๆ ที่เขาทำ

Published on November 30, 2014 05:42
November 28, 2014
ไข้ขึ้นโดยไม่มีสาเหตุ - -
ใครป่วยนิดๆ หน่อยๆ เหมือนกันบ่อยๆ บ้างอะ 555
Published on November 28, 2014 03:59