ทีปกร วุฒิพิทยามงคล's Blog, page 10

November 27, 2014

งานที่วาดภาพประกอบให้กับเว็บไซต์ Expedia ครับ :->

งานที่วาดภาพประกอบให้กับเว็บไซต์ Expedia ครับ :->


 •  0 comments  •  flag
Share on Twitter
Published on November 27, 2014 20:07

ใครเป็นแบบนี้ต้องรีบชาร์จ (นอน!)

ใครเป็นแบบนี้ต้องรีบชาร์จ (นอน!)


 •  0 comments  •  flag
Share on Twitter
Published on November 27, 2014 08:12

November 26, 2014

คำของป๊า
======

ป๊าของผมเป็นคนดุ

ไม่รู้ว่าความดุนี้ได้มาจากสายเลือดคนจีนในตั...

คำของป๊า
======

ป๊าของผมเป็นคนดุ

ไม่รู้ว่าความดุนี้ได้มาจากสายเลือดคนจีนในตัวป๊าหรือเปล่า แต่พอเทียบกันกับเพื่อนรุ่นเดียวกันที่มีพ่อแม่เป็นคนจีนเหมือนกัน ก็ดูว่าพ่อแม่เขาก็ไม่เห็นจะดุเท่าป๊า ทั้งนี้ เขาอาจจะดุในบ้านแต่ผมไม่รู้เองก็ได้

ความดุของป๊าเป็นความดุทั้งทางวาจาและทางร่างกาย และเป็นความดุในระดับสูงสุดเท่าที่เด็กคนหนึ่งจะจินตนาการได้ ด้วยความที่เป็นเช่นนี้ ทำให้ผมไม่สนิทกับป๊านัก เวลามีปัญหาอะไรก็มักจะไปปรึกษาแม่เสียมากกว่า เพราะกลัวว่าถ้าเอาไปปรึกษาป๊าแล้วมันเป็นเรื่องที่ป๊าไม่ชอบแล้วจะเจ็บตัวเอา เอาไปปรึกษาแม่ดูเป็นหนทางที่เพลย์เซฟ ไม่เจ็บเนื้อเจ็บตัวกว่าเห็นๆ อาจเป็นเพราะอย่างนั้นทำให้ป๊ากับผมไม่ค่อยสนิทกันเท่าไหร่ เมื่อไหร่ที่เราอยู่ด้วยกัน เราจึงมักปล่อยให้ความเงียบทำงานของมันไปอย่างช้าๆ

แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้หมายความว่าเราเข้าหน้ากันไม่ติด หรือป๊าไม่มีอะไรจะสอนผม กลับกัน ป๊ามีคำสอนหลายอย่างที่ผมจำติดหูติดตาได้จนถึงทุกวันนี้ เป็นคำสอนที่ตีเส้นทางและการตัดสินใจในชีวิตให้ผมโดยทั้งที่ผมรู้และไม่รู้ตัวมาหลายต่อหลายครั้ง

เรื่องแรก คือ ป๊าไม่ชอบให้ผมไม่สู้คน ตอนเด็กๆ ผมเป็นเด็กที่เหมือนกับโนบิตะ นั่นคือขี้แย ชอบโดนแกล้ง ด้วยรูปลักษณ์แคระๆ ผอมๆ ใส่แว่นและเหล็กดัดฟัน ทำให้น่าแกล้งเข้าไปใหญ่ ทุกครั้งพอกลับบ้านแล้วมีแผลใหม่ๆ ป๊าจะมองด้วยความไม่พอใจเสมอๆ มักจะถามว่า ‘ได้สู้เค้ากลับไปบ้างมั้ย’ ‘ปล่อยให้เขาทำฝ่ายเดียวหรือเปล่า’ ในขณะที่ผมคิดเองเออเองว่าตัวเองเป็นสายบุ๋นไม่ใช่สายบู๊

คำสอนต่อมาที่จำได้ไม่ลืมคือมีอยู่วันหนึ่ง ขณะที่เราขับรถกันไปเงียบๆ สองคน พอรถติดไฟแดง ป๊าก็ชี้ให้ดูว่า เห็นมั้ยรถมันสั่น เวลาติดไฟแดง ไม่ได้ไปไหน แล้วรถมันจะสั่นๆ ป๊าบอกว่า ก็เหมือนคนเรานี่แหละ ที่เวลาไม่ได้ทำงานมันก็เหมือนกับมีพลังงานอยู่ภายในที่รอมันจะระเบิดออกมา มันก็จะสั่นงันงกแบบนั้น เทียบกับตอนที่รถได้วิ่ง ทุกอย่างจะเรียบลื่น ไม่สั่นอีกแล้ว คนเราก็เช่นกัน ฉะนั้น จงทำงาน (ที่พูดมาทั้งหมดเพื่อจะจบที่ประโยคนี้)

อันนี้ฟังดูไม่ค่อยเป็นเหตุเป็นผลกันเท่าไหร่ แต่อาจเป็นเพราะอย่างนั้นผมเลยยังจำได้ ก็จะคิดซะว่าเป็นกุศโลบายอย่างหนึ่ง ฮ่าฮ่า

เท่าที่พอจะนึกได้อันหลังสุด ว่างเมื่อไหร่ ป๊ามักจะชูนิ้วขึ้นมาสิบนิ้ว แล้วเรียกให้พวกเราพี่น้องดู แล้วบอกว่า “รู้มั้ยว่าคนเราอายุเฉลี่ยๆ นี่น่าจะตายตอนประมาณ 70 ปี” พูดเสร็จก็เน้นนิ้วทั้งสิบ

“ตอนนี้ลูกอายุสิบสี่ ก็เหมือนกับใช้ไปแล้วสองนิ้ว” ป๊าหดนิ้วก้อยกับนิ้วนางลง “เหลืออีกแปดนิ้ว คิดหรือยังว่าอีกแปดนิ้วจะใช้มันไปอย่างไร”

“ป๊าอายุสี่สิบกว่าแล้ว ก็เหมือนใช้ไปแล้วหก จะเจ็ดนิ้ว นี่มาเกินครึ่งทางแล้ว ป๊าก็อยู่ได้อีกไม่นาน ชีวิตที่เหลือลูกคงต้องคิดเอาเองว่าจะเอาไปทำอะไร อย่างไร”

อาจเป็นเพราะเป็นคำสอนที่มี Key Visual น่าจดจำ เป็นการชูสิบนิ้วขึ้นมาประกอบ ไม่ได้พูดลอยๆ ทำให้ผมยังจำมันได้ และเมื่อผมจำได้ ผมก็เลยได้คิดอยู่เสมอว่าตอนนี้เราเดินทางมากี่นิ้วแล้ว แล้วนิ้วที่เหลือเราคิดไว้ดีหรือยัง หรือได้คิดไว้หรือเปล่า

คำสอนของคุณพ่อของแต่ละคนที่อ่านมาถึงตรงนี้ มีคำสอนไหนน่าติดตาตรึงใจบ้างไหมครับ เล่าให้ฟังกันบ้างนะครับ :)


 •  0 comments  •  flag
Share on Twitter
Published on November 26, 2014 06:01

November 25, 2014

นั่นแน่ะ

นั่นแน่ะ


1 like ·   •  0 comments  •  flag
Share on Twitter
Published on November 25, 2014 00:11

November 24, 2014

ปัญหาไก่กับไข่ :->
ตอนทุกข์ก็ไก่กับไข่เหมือนกัน แต่เป็นอีกแบบ
จับต้นชนปลายไม่ถูก...

ปัญหาไก่กับไข่ :->
ตอนทุกข์ก็ไก่กับไข่เหมือนกัน แต่เป็นอีกแบบ
จับต้นชนปลายไม่ถูก
เผลอๆ ก็ออกมาจากวังวนนั้นได้เอง


 •  0 comments  •  flag
Share on Twitter
Published on November 24, 2014 07:42

November 21, 2014

OSAKA/KYOTO2
=============
กลับจากโอซาก้าแล้วครับ เลยเอารูปมาลงอีกเซ็ต

ไปเที่ย...

OSAKA/KYOTO2
=============
กลับจากโอซาก้าแล้วครับ เลยเอารูปมาลงอีกเซ็ต

ไปเที่ยวครั้งนี้ส่วนใหญ่ไม่ค่อยได้อยู่ในเมืองเลยครับ เอาแต่ออกนอกเมือง ไปป่า ไปเขาตลอด (ที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวน่ะนะ ไม่ใช่ไปเดินป่าเขาแบบเข้าป่าจริงๆ) เมื่อก่อนไปญี่ปุ่นจะไม่เคยคิดไปป่าเขาเลยเพราะคิดว่าเหมือนกัน ที่ไทยก็ป่าๆ เขาๆ เหมือนกันไรงี้ แต่พอเที่ยวไปเรื่อยๆ ก็รู้ว่าวิวมันไม่เหมือนกัน บวกกับเบื่อเมือง เลยอยากออกไปข้างนอกมากขึ้น

ที่เกียวโตผมไม่ได้ใช้ Expedia จองครับ แต่ใช้เว็บชื่อ HostelWorld แทน ได้นอนที่ Gion Ryokan Q-Beh ซึ่งก็ดันจองช้า เลยได้นอนห้องรวม (เตียงบังค์เบด) 10 คน ก็ทำให้รู้ว่าบางทีก็หมดวัยนอนโฮสเทลแล้วครับ 555 (ถ้าได้ห้องไพรเวทก็พอได้)

พอได้กลับมานอนที่โอซาก้าเลยรู้สึกสบายเป็นพิเศษ โรงแรมที่จองไปชื่อ Hotel Grande Vista อยู่ใจกลางนัมบะ (เลือกจากเรตติ้งในเว็บ Expedia ได้ 90% ไรงี้) ซึ่งอุดมไปด้วยของกินต่างๆ นานา -_-

เดี๋ยวจะกลับมาวาดรูปเร็วๆ นี้ครับ

ปล. ขอบคุณ expedia ที่สนับสนุนที่พักในโอซาก้าครับ :->
http://www.expedia.co.th/


1 like ·   •  0 comments  •  flag
Share on Twitter
Published on November 21, 2014 17:55

November 17, 2014

OSAKA/KYOTO
============

หนีเที่ยวอีกแล้วครับ :p แต่คราวนี้มาสั้นๆ แค่ 7 วัน มา...

OSAKA/KYOTO
============

หนีเที่ยวอีกแล้วครับ :p แต่คราวนี้มาสั้นๆ แค่ 7 วัน มาโอซาก้ากับเกียวโตแบบที่ไม่ได้วางแผนอะไรมาก่อน (คือรู้ว่าจะมาเมืองเหล่านี้ แต่ไม่ได้คิดว่าจะไปเที่ยวที่ไหน) เลยเที่ยวแบบลมพัดลมเพมากครับ รูปเหล่านี้ก็จะประกอบด้วยการวิ่ง (กิจวัตร) และการขึ้นเขาปลีกวิเวกเป็นส่วนใหญ่ 555

พอดีว่า expedia (เว็บจองตั๋วโรงแรมและเครื่องบิน) เค้าให้ที่พัก (บางคืน) โดยมีข้อแม้ว่าต้องเข้าไปลองใช้และมารีวิวให้ฟัง ก็เลยได้มาครับ

ปกติใช้เว็บ expedia อยู่แล้วนะครับ แต่ใช้เฉพาะเวลาเปรียบเทียบราคาตั๋วเครื่องบิน (เพราะมันจะเซิร์ชมาให้ดูหมดว่าสายการบินไหนถูกแพงยังไงบ้าง) แต่คราวนี้เลยได้ลองจองที่พักจริงๆ สักที ก็จองในโอซาก้าไปสองที่ครับ คือโรงแรม APA Villa Yodoyabashi และโรงแรม Hotel Vista Grande Osaka (ชื่อเหมือนกาแฟสตาร์บักส์) ส่วนที่เกียวโตจองโฮสเทลเล็กๆ ไว้ชื่อ Gion Ryokan Q-Beh (อยู่แถวกิองตามชื่อแหละครับ)

เท่าที่ลองใช้ app expedia ดูก็พบว่าง่ายดีครับ ที่ชอบคือเวลาใกล้ๆ ถึงเวลาเดินทางแล้วถ้าลงแอพไว้ มันจะส่ง notification มาเตือนด้วย เช่น พรุ่งนี้เดินทางแล้วนะ (ถ้าจองเครื่องบินไว้ก็จะบอกเกตด้วยว่าเข้าออกเกตไหนยังไง) หรือเชคอินโรงแรมได้กี่โมง ก็สะดวกดีครับ

ปล. ตอนนี้ expedia มีแคมเปญให้แชร์รูปแล้วจะให้ไปเที่ยวฟรี ใครสนใจก็ลองไปดูได้นะครับ

https://www.facebook.com/media/set/?set=a.999438166749711.1073741864.346808098679391&type=3


 •  0 comments  •  flag
Share on Twitter
Published on November 17, 2014 23:46

November 7, 2014

"เอ้า ทำท่ากดไลค์นะครับ"

ใครที่เคยไปออกงานต่างๆ (จะเล็กหรือใหญ่ก็ตาม) แล้วต้องไ...

"เอ้า ทำท่ากดไลค์นะครับ"

ใครที่เคยไปออกงานต่างๆ (จะเล็กหรือใหญ่ก็ตาม) แล้วต้องไปเรียงแถวถ่ายรูปเป็นพิธี คงรู้ว่าการเรียงแถวถ่ายรูปแบบนั้นเป็นโมเมนต์ที่เหนื่อยมาก เหนื่อยเพราะต้องยิ้มทั้งที่ก็ไม่ได้อยากยิ้ม และเหนื่อยเพราะต้องประกอบร่างตัวเองให้อยู่ในลักษณะที่ presentable ตลอดเวลาที่ชัตเตอร์ลั่น ซึ่งไม่ใช่การดำรงอยู่อย่างปกติของร่างกายคนส่วนใหญ่

มาคิดดู ในทุกวันนี้ที่มีโซเชียลเนตเวิร์กต่างๆ ที่แพร่กระจาย (broadcast) ไลฟ์สไตล์ของเราออกไปตลอดเวลา ทุกวินาทีก็กลายเป็น Photo-ops หรือการเรียงแถวถ่ายรูป ถ้าเราปล่อยให้มันเป็นอย่างนั้น

นั่นทำให้เราเหนื่อยเกินความจำเป็น เพราะเราต้องประกอบร่างตัวเองให้อยู่ในลักษณะที่ presentable ตลอดเวลา

เราไปเที่ยวก็ต้องถ่ายรูปในมุมที่ดีที่สุดของสถานที่เพื่อให้การเผยแพร่ชีวิตของเราดูไร้ที่ติ เราไปกินก็ต้องพยายามถ่ายรูปอาหารในมุมที่ชีสเยิ้มที่สุดหรือเงาของเม็ดน้ำที่ไหลออกมาจากเนื้อสะท้อนแสงไฟมากที่สุดราวกับจะพิสูจน์หรือพรีเซนต์อะไรบางอย่าง

นั่นทำให้เราเหนื่อยเกินความจำเป็น

ทั้งนี้ไม่ได้จำกัดเฉพาะสิ่งที่เป็นรูปภาพหรือภาพเคลื่อนไหวเท่านั้น การเรียงแถวถ่ายรูปในลักษณะนี้อาจรวมไปถึงการเผยแพร่ความคิดความอ่านของเราผ่านทางตัวอักษร (ทวีต และสเตตัสเฟซบุ๊ก) ด้วย

เราต้องพิมพ์อะไรบางอย่างเพื่อให้มีคนอื่นเห็นว่าเราพิมพ์อย่างนั้น เราคิดอย่างนั้น หรือเราคิดอย่างนั้นและอยากบอกจริงๆ (เราอยากบอกหรือเราอยากให้คนอื่นเห็นว่าเราอยากบอกกันแน่)

เรายังคิดไม่ตก แต่เราก็รู้สึกว่าถ้าคิดตามเส้นนี้ไปเรื่อยๆ เราคงจะอนุญาตตัวเองให้เรียงแถวถ่ายรูปได้น้อยลง
1 like ·   •  0 comments  •  flag
Share on Twitter
Published on November 07, 2014 19:34

November 4, 2014

กลับถึงไทยโดยสวัสดิภาพ :3
นี่แมวเจ้าบ้าน

กลับถึงไทยโดยสวัสดิภาพ :3
นี่แมวเจ้าบ้าน


 •  0 comments  •  flag
Share on Twitter
Published on November 04, 2014 20:13

November 1, 2014

มานิวยอร์ก
วันนี้กลับไทยแล้วครับ :D

มานิวยอร์ก
วันนี้กลับไทยแล้วครับ :D


 •  0 comments  •  flag
Share on Twitter
Published on November 01, 2014 19:00