ฮีโร่เงียบๆ
======

ป๊าของผมเป็นคนเข้มงวด แต่ความเข้มงวดของป๊าไม่ได้มีไว้เพื่อใ...

ฮีโร่เงียบๆ
======

ป๊าของผมเป็นคนเข้มงวด แต่ความเข้มงวดของป๊าไม่ได้มีไว้เพื่อใช้กับคนอื่นเท่านั้น ทุกครั้งที่ป๊าเข้มงวดกับลูกๆ (‘ทำไมจำไม่ได้สักทีวะว่า 8x9 มันได้ 72!!!’ ในกรณีของน้องของผม หรือป๊าจะโกรธทุกครั้งที่ผมไม่พูด ‘ครับ’ ท้ายประโยคหรือทำหน้าบึ้งใส่)
ทุกครั้งป๊าก็จะกลับไปเข้มงวดกับตัวเองทุกที

ป๊าผิดหวังในตัวเรามากเท่าไหร่ ป๊าก็มักจะกลับไปตั้งคำถามว่าทำไม เพราะอะไรกับตัวเองทุกๆ ครั้ง แล้วป๊าก็จะพยายามหาวิธีอื่น วิถีทางอื่นในการปรับ สอน คุย ทำความเข้าใจ กับพวกเรา จนพวกเราดีขึ้นในแบบที่ป๊าอยากให้เป็น

บางครั้งผมก็มาคิดว่าผมได้อะไรจากวิธีที่ป๊าสอน มากกว่าสิ่งที่ป๊าสอนเสียอีก

หลายครั้งป๊าสอนผมโดยที่ไม่ได้พูดออกมา มันเป็นวิธีมองและปฏิบัติต่อโลกในแบบของป๊า ที่ผมเห็นจนชินตาและจดจำมาเองโดยไม่รู้ตัว

ผมไม่ได้คิดว่าตัวเองเป็นคนดีนัก แต่ก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร ผมเป็นคนปกติอยู่ในเกณฑ์คนธรรมดาคนหนึ่ง

อาชีพการงานของป๊า คือ การเป็นเภสัชกรในโรงพยาบาลรัฐแห่งหนึ่ง ตำแหน่งใหญ่พอตัวตามอายุการงานที่ทำมากว่าสามสิบปี การเป็นเภสัชกรในโรงพยาบาลรัฐ (ที่ใหญ่พอสมควร) เป็นตำแหน่งที่เสี่ยงต่อการหมิ่นเหม่ทางจรรยาบรรณและศีลธรรม เพราะการสั่งยาที่นำมาใช้ในโรงพยาบาลแต่ละครั้งก็มีปริมาณมาก คิดเป็นเงินไม่น้อย และผู้มีอำนาจว่าจะเลือกยาแบบไหน จากบริษัทใด ก็คือหัวหน้าเภสัชกรนี้เอง

จึงเป็นเรื่องปกติที่เซลล์ขายยาของแต่ละบริษัทจะต้องเอาอกเอาใจผู้มีอำนาจโดยการพาไปเลี้ยงข้าวตามร้านอาหารหรูๆ ซื้อของขวัญของฝากมาให้ตามโอกาสพิเศษต่างๆ หรือพาไปทริปพิเศษต่างๆ ที่ถูกตั้งชื่อว่าเป็นการดูงาน ซึ่งสำหรับผม เรื่องเหล่านี้ถือเป็นเรื่องที่ไม่ดี (ใครก็ตอบได้อยู่แล้ว) แต่ถ้าถามว่าถ้ามีคนเสนอให้กับตัว จะเอาไหม ผมก็ไม่สามารถตอบได้อย่างมั่นใจ 100% ว่าจะปฏิเสธ

อย่างที่บอก ผมไม่ใช่คนดีนัก

แต่กลับบ้านครั้งล่าสุด ผมก็ได้เรียนรู้ว่าป๊าของผมเป็นคนดีกว่าผมอย่างแน่นอน อย่างน้อยก็ในแง่นี้

ผมได้เรียนรู้ว่าป๊าไม่เอาเรื่องพวกนี้เลย ป๊าคิดว่ามันไม่ใช่เรื่องที่ควรไปรับค่าผ่านทาง ค่าต๋ง หรือค่าเกรงใจค่ามิตรภาพ เพื่อใช้เป็นเหตุผลในการเลือกหรือไม่เลือกยาตัวไหนเข้ามาใช้ ซึ่งป๊าก็ไม่ได้ป่าวประกาศออกมาว่าฉันเป็นคนดี ฉันจึงไม่เอา ป๊าแค่ไม่เอาเฉยๆ เพราะคิดว่ามันเป็นเรื่องไม่ควร และการทำอย่างนี้ก็ไม่ได้ทำให้ป๊าคิดว่าตัวเองเป็นคนดีมากมายอะไร แค่เป็นคนปกติเฉยๆ

แต่ผมคิดว่ามันมีสิ่งที่เรียกว่าความดีของการมองไม่เห็นว่าตัวเองเป็นคนดีอยู่ และป๊าก็กำลังมีความดีในข้อนั้นอย่างเต็มเปี่ยม

ในวันที่ผมคิดว่าตัวเองโตแล้วและป๊า ‘ไม่มีอะไรจะสอน’ ผมอีกแล้ว ก็กลายเป็นว่าป๊ายังมีอะไรให้เราเรียนรู้ได้เสมอๆ

การเป็นฮีโร่ที่ไม่ได้ต้องมาบอกว่าตัวเองทำอะไรมากมายเพียงใด เป็นผู้กอบกู้หรือเก่งกาจอะไร เขาแค่ทำของเขาไปเงียบๆ และเราจะรู้สึกดีได้ เมื่อเราได้สัมผัส ได้มองเห็นสิ่งดีๆ ที่เขาทำ


 •  0 comments  •  flag
Share on Twitter
Published on November 30, 2014 05:42
No comments have been added yet.