โตเกียวแป๊บเดียวกลับ วันที่ 3
====================
วันสุดท้ายที่อยู่ในโตเกียวแล...
โตเกียวแป๊บเดียวกลับ วันที่ 3
====================
วันสุดท้ายที่อยู่ในโตเกียวแล้วครับ (แป๊บเดียวกลับจริงๆ ในรอบ 7-8 ครั้งที่เคยมาโตเกียว ครั้งนี้สั้นที่สุดเลย) วันนี้เป็นวันติสท์ๆ ครับ
เราเริ่มวันด้วยการไปเยี่ยมพิพิธภัณฑ์โอคาโมโต้ ทาโร่ แถวๆ โอโมเตะซันโดครับ จริงๆ ผมก็ไม่ค่อยคุ้นกับชื่อของศิลปะคนนี้เท่าไหร่ แต่พอรู้ว่าเป็นศิลปินที่ทำแท่นตั้งประดับงาน World EXPO ตามท้องเรื่องของการ์ตูน 20th Century Boys เลยคุ้นชื่อขึ้นมาบ้าง งานของโอคาโมโต้ ทาโร่ เป็นงานเซอร์เรียลที่เน้นความคิดที่ว่าทุกอย่างประกอบด้วยจิตวิญญาณ และสิ่งมีชีวิตทั้งหมดเกื้อกูลกัน โดยแสดงออกผ่านลายเส้นที่มั่นใจและสีสันที่สดใส ทำให้มีความป๊อปเหนือกาลเวลาครับ
หลังจากนั้นเราขยับตัวมาที่ Tokyo Art Festa Gallery ที่เป็นตึกรวมผลงานของศิลปินอิสระ ที่นี่เราก็ได้เห็นเมล็ดพันธุ์ความฝันหน่อเล็กหน่อน้อยที่กำลังรอคอยการเติบใหญ่เป็นไม้ยืนต้นในอนาคต
ตอนบ่ายได้ไปพักผ่อนที่คาเฟ่แถวชิบุยะ เป็นคาเฟ่ที่มีจุดขายที่แปลกมากคือเลี้ยงแพะสองตัวไว้หน้าร้าน แพะตัวหนึ่งชื่อชอคโกล่า อีกตัวหนึ่งชื่อซากุระ เป็นแพะสีขาวกับสีดำ คาเฟ่นี้เลยมีชื่อเล่นว่าคาเฟ่แพะไปโดยปริยาย (ชื่อจริงๆ คือ Sakuragaoka Cafe) ใครเดินผ่านไปผ่านมาก็อดเล่นกับแพะ ไม่ได้ หรือบางคนก็เอื้อมมือมาให้อาหารแพะด้วยครับ
แล้วตอนเย็นซึ่งใกล้จะกลับแล้ว เขาก็พาไปชมการประดับแสงสีไฟในย่านนิฮงบาชิ ซึ่งเป็นการประดับเพื่อต้อนรับเทศกาลชมซากุระ (ซึ่งน่าเสียดายมากเพราะตอนไป ซากุระยังไม่บาน) ตึกรามบ้านช่องในละแวกนั้นพร้อมใจกันประดับประดาด้วยไฟสีชมพูจนเป็นถนนสีชมพูไปทั้งสาย สวยดีครับ
แล้วก็กลับไฟลต์เที่ยงคืน ซึ่งทรมานนิดหน่อย เพราะมาถึงไทยตอนตีห้า แล้วก็ต้องเผชิญกับอากาศร้อนๆ ต่อเลย เป็นอันจบทริป โตเกียวแป๊บเดียวกลับในรอบนี้
ต้องขอบคุณทางการโตเกียว และ Japan Relation ที่ชวนไปทริปในครั้งนี้ด้วยครับ :)
====================
วันสุดท้ายที่อยู่ในโตเกียวแล้วครับ (แป๊บเดียวกลับจริงๆ ในรอบ 7-8 ครั้งที่เคยมาโตเกียว ครั้งนี้สั้นที่สุดเลย) วันนี้เป็นวันติสท์ๆ ครับ
เราเริ่มวันด้วยการไปเยี่ยมพิพิธภัณฑ์โอคาโมโต้ ทาโร่ แถวๆ โอโมเตะซันโดครับ จริงๆ ผมก็ไม่ค่อยคุ้นกับชื่อของศิลปะคนนี้เท่าไหร่ แต่พอรู้ว่าเป็นศิลปินที่ทำแท่นตั้งประดับงาน World EXPO ตามท้องเรื่องของการ์ตูน 20th Century Boys เลยคุ้นชื่อขึ้นมาบ้าง งานของโอคาโมโต้ ทาโร่ เป็นงานเซอร์เรียลที่เน้นความคิดที่ว่าทุกอย่างประกอบด้วยจิตวิญญาณ และสิ่งมีชีวิตทั้งหมดเกื้อกูลกัน โดยแสดงออกผ่านลายเส้นที่มั่นใจและสีสันที่สดใส ทำให้มีความป๊อปเหนือกาลเวลาครับ
หลังจากนั้นเราขยับตัวมาที่ Tokyo Art Festa Gallery ที่เป็นตึกรวมผลงานของศิลปินอิสระ ที่นี่เราก็ได้เห็นเมล็ดพันธุ์ความฝันหน่อเล็กหน่อน้อยที่กำลังรอคอยการเติบใหญ่เป็นไม้ยืนต้นในอนาคต
ตอนบ่ายได้ไปพักผ่อนที่คาเฟ่แถวชิบุยะ เป็นคาเฟ่ที่มีจุดขายที่แปลกมากคือเลี้ยงแพะสองตัวไว้หน้าร้าน แพะตัวหนึ่งชื่อชอคโกล่า อีกตัวหนึ่งชื่อซากุระ เป็นแพะสีขาวกับสีดำ คาเฟ่นี้เลยมีชื่อเล่นว่าคาเฟ่แพะไปโดยปริยาย (ชื่อจริงๆ คือ Sakuragaoka Cafe) ใครเดินผ่านไปผ่านมาก็อดเล่นกับแพะ ไม่ได้ หรือบางคนก็เอื้อมมือมาให้อาหารแพะด้วยครับ
แล้วตอนเย็นซึ่งใกล้จะกลับแล้ว เขาก็พาไปชมการประดับแสงสีไฟในย่านนิฮงบาชิ ซึ่งเป็นการประดับเพื่อต้อนรับเทศกาลชมซากุระ (ซึ่งน่าเสียดายมากเพราะตอนไป ซากุระยังไม่บาน) ตึกรามบ้านช่องในละแวกนั้นพร้อมใจกันประดับประดาด้วยไฟสีชมพูจนเป็นถนนสีชมพูไปทั้งสาย สวยดีครับ
แล้วก็กลับไฟลต์เที่ยงคืน ซึ่งทรมานนิดหน่อย เพราะมาถึงไทยตอนตีห้า แล้วก็ต้องเผชิญกับอากาศร้อนๆ ต่อเลย เป็นอันจบทริป โตเกียวแป๊บเดียวกลับในรอบนี้
ต้องขอบคุณทางการโตเกียว และ Japan Relation ที่ชวนไปทริปในครั้งนี้ด้วยครับ :)









Published on March 14, 2015 08:35
No comments have been added yet.