แนะนำหนังสือ “คือปะป๊าครองพิภพ”
หลังจากปล่อยทีเซอร์ก็แล้ว ปล่อยอีกรอบก็แล้ว แจกวอลเปเปอร์ก็แล้ว ผมก็ยังไม่กล้าแนะนำหนังสือที่ตัวเองเขียนครับ
นั่นเพราะตลอดระยะเวลาสี่เดือนที่ผ่านมา “คือปะป๊าครองพิภพ” มันเป็นเพียงจินตนาการร่วมกันของผมและเหล่ากอง บ.ก.สำนักพิมพ์แซลมอน ที่ต่างก็ใจเต้นตุ๊มๆ ต่อมๆ และกังวลกันว่า มันจะเสร็จรึเปล่าวะ ใครที่เล่นทวิตเตอร์ ติดตามผมช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ก็จะเจอแต่เหตุการณ์หนีหนี้ ไม่สิ หนีเอาตัวรอดจากการทวงต้นฉบับ ไล่ล่าแม่งทุกโซเชียลเน็ตเวิร์กจากอี @freeclub จนจะโดนมันต่อยหลายครั้ง แต่ในที่สุด วันนี้ (31 มี.ค.56) ชาวบ้านแถบลาดปลาเค้าก็ต้องจารึกเป็นอีกหน้าหนึ่งของประวัติศาสตร์ว่า หนังสือของผมพิมพ์เสร็จแล้วครับ! จะได้เห็นของจริงละครับ! ตื่นเต้นฉิบหายเลยครับ!
ด้วยความตื่นเต้น วันนี้ซึ่งเป็นวันที่ 3 ของงานหนังสือประจำปิดเทอมใหญ่ปีนี้ แต่เป็นวันแรกที่จะได้เห็นหนังสือของตัวเอง เพราะได้รับข่าววงในมาว่าหนังสือจะเสร็จจากโรงพิมพ์ร้อนๆ พอดีในตอนเช้า ถึงแม้ไม่มีคิวเซ็นหนังสือตามตาราง แต่ผมก็หอบลูกหิ้วเมียไปยืนหน้าบูธของสำนักพิมพ์ (แผนที่บูธ) แล้วเปิดบูธเถื่อนอยู่ข้างๆ นั่งพูดคุยกับเพื่อนฝูงและน้องนุ่งที่ทยอยกันมาเจอกันทั้งแบบที่นัดและไม่ได้นัดซะเลย ดีใจจริงจริ๊งงงง
เอ้า ทีนี้มาเข้าเรื่อง เริ่มขายของกันซะที
หนังสืออะไรนะ
ด้วยความที่ผมดันเป็นพวกอีช่างจดอยู่แล้ว เวลาเจออะไรต่อมิอะไรที่ผ่านเข้ามาในชีวิตก็มักจะถูกบันทึกไว้ไม่ทางใดก็ทางนึง เป็นนิสัยติดตัวมาตลอด (ก็ดูเขียนบล็อกนี่มาสิบกว่าปีละกัน ที่จริงเป็นมาก่อนหน้านั้นอีกนะ แต่เขียนลงสมุด แล้วเพื่อนแม่งก็ชอบแย่งไปอ่านแล้วก็ล้อ แม่ง) พอไปเข้าหูอี บ.ก.แบงค์ @natchanon แห่งแซลมอนเข้า มันก็เลยชวนแกมบังคับให้มาเขียนเป็นเล่มๆ คนอื่นจะได้อ่านด้วยไง… ดังนั้น “คือปะป๊าฯ” เนี่ยเลยเป็นหนังสือที่บอกเล่าเรื่องราวของชีวิตมนุษย์พ่อลูกอ่อน ผ่านประสบการณ์การมีลูกด้วยตัวเองของผม นับตั้งแต่แต่งงาน เมียท้อง จนคลอดออกมาและค่อยๆ โตขึ้นเป็นเด็กหญิงนิทานตัวน้อยๆ ในที่สุด (สปอยล์ยันจบเลยนะเนี่ย)
ว่ากันตรงๆ ทีแรกผมได้ยินคำชวนของอี บ.ก.ก็ไปไม่ถูกเหมือนกันครับ ถามมันไปว่าเฮ้ย แล้วใครมันจะไปอยากรู้เรื่องของกูวะ คนอ่านที่ยังไม่มีลูกเขาจะไปอินได้ยังไง แต่พอเริ่มลงมือเขียนเข้าจริงๆ ก็พบว่า… (เริ่มอวยตัวเองละ… ทนอ่านต่อไปนะ) มันมีประเด็นเจ๋งๆ ให้พูดถึงอยู่เต็มไปหมด ทุกๆ ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในแต่ละวันนั้นช่างแปลกใหม่และส่งผลให้ชีวิตไม่เหมือนเดิมไปตลอดกาล แต่มันเกิดขึ้นทุกวันไง!
เอาเข้าจริงแล้ว คนที่เป็นพ่อเป็นแม่มือใหม่ทุกคนก็น่าจะได้สัมผัสประสบการณ์ร่วมกันกับผม ทั้งเรื่องความตื่นเต้น ประหม่า กังวล กลัวนั่นนี่ ดราม่ากรุบกริบ การปะทะกับความเชื่อโบราณๆ ของญาติผู้ใหญ่ ไปยันช่วงเก็บเกี่ยวความสุขจากลูกที่โตขึ้นทุกวันๆ และมีเรื่องเล่าให้หัวเราะร้องไห้ไม่ซ้ำกันในแต่ละวัน ผมเลยขออาสาหยิบเรื่องราวเหล่านั้นมาถ่ายทอดให้คนที่ยังไม่เคยมีลูกได้อ่านกันครับ
และก็อย่างที่พอจะเดาได้ว่า เรื่องราวในหนังสือนั้นถูกเขียนจากมุมมองของผมเอง… ฉะนั้นโลกที่ผมเจอ กับโลกที่มนุษย์พ่อแม่ลูกอ่อนคนอื่นๆ เขาเจอ มันจะเหมือนกันรึเปล่าวะ ไม่แน่นะ ใครที่เคยมีลูกแล้วหยิบมาอ่านก็น่าจะชอบเหมือนกัน โอ๊ย เขียนอวยหนังสือตัวเองไม่เกรงใจใครเลย 55555
ไม่รู้ว่าเป็นคำชมหรือด่านะ แต่คำโปรยปกหน้าของหนังสือเล่มนี้คือ “บันทึกฉบับเกรียนสู่การเป็นเซียนพ่อลูกอ่อน” ครับ
หนังสือเล่มนี้เหมาะกับใคร
คนท้อง
คนที่มีเมียท้อง
คนที่เผลอไปทำใครเขาท้อง
คนที่อยากมีลูก
คนที่ไม่อยากมีลูก
คนที่เพื่อนกำลังจะมีลูก (แล้วเอาไปฝากมัน)
คนที่เพื่อนกำลังจะมีลูกโดยไม่ได้ตั้งใจ (แล้วเอาไปล้อมัน)
คนที่กำลังมีลูกคนแรก
คนที่มีลูกนานแล้ว แต่อยากย้อนกลับมาสัมผัสความรู้สึกตื่นเต้นอีกครั้ง
คนที่ยังไม่มีลูก หรือเผลอๆ แฟนก็ยังไม่มี แต่ในใจลึกๆ ก็อยากรู้ว่าคนมีลูกเขาต้องเจออะไรบ้าง
คนที่มีตังค์เหลืออยากซื้อหนังสือไว้ถมบ้านเล่น
คนที่จะซื้อหนังสือของนักเขียนคนอื่น แต่หยิบผิดเพราะมันวางใกล้กัน
ทุกคน (ที่จริงบอกแบบนี้ตั้งกะทีแรกซะก็จบ)
สรุปว่าแม้คุณจะ(ยัง)ไม่ได้เป็นพ่อแม่คน ก็อ่านได้ สบายใจ เข้าใจ และสนุกไปกับมันได้อยู่ดี แนะนำให้อ่านครับ (เพราะผมได้ตังค์) ถ้ากลัวจะรู้สึกว่าไกลตัว เอ๊ะฉันยังไม่คิดจะท้องซะหน่อย อ่านแล้วจะอินรึเปล่าวะ ก็ลองนึกถึงนักเขียนคนอื่นที่เล่าเรื่องตัวเองดูสิครับ ไม่ว่าจะเป็นนักข่าว หมอ ทหาร นักวาด คนทำงานโรงแรม ฯลฯ ดูดิ บางทีเราไม่ได้ไปเกี่ยวอะไรกะเขาสักหน่อย แต่ทำไมเวลาอ่านแล้วถึงเก็ตและอินไปด้วย …ก็เพราะเขาเขียนสนุกไง ดังนั้นเล่มนี้ผมก็เขียนให้มันสนุกอยู่นะ 55555 (นี่ก็อวยตัวเอง)
เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย
นี่เป็นงานเขียนครั้งแรกของผมเองครับ แต่เป็นเล่มที่ 2 แล้วที่ออกกับสำนักพิมพ์แซลมอน โดยเล่มแรกคือ FAIL OF THE สอง YEARS ที่ตอนนั้นตัวเองยังครองตำแหน่งเฟลาธิการ (ตอนนี้ไม่ได้เป็นแล้ว) และนั่งกระดิกตีนคัดเลือกต้นฉบับเฉยๆ แต่ตอนนี้เขียนเองทั้งเล่ม
วาดรูปเองด้วย! ในเล่มมีการ์ตูนแบบแอนๆ แอบแฝงกระจายตัวอยู่เยอะแยะเลย ใครที่เคยอ่านการ์ตูนตีนปาดในบล็อกก็คงจะอิ่มหนำสำราญ
แต่ใครไม่เคยอ่านก็ลองอ่านดูก่อนจะเขวี้ยงทิ้งนะครับ เผื่อมันจะสนุก (สนุกเถอะขอร้อง)
ทีแรกจะใช้ชื่อผู้เขียนเป็นชื่อจริงว่า “ปรัชญา สิงห์โต” แต่มานึกดูอีกที คนจะรู้จักกูรึเปล่าวะ แต่ก็อยากมีชื่อจริงแปะไว้เหมือนกันนะ เลยถามกอง บ.ก.ดูว่ามันควรจะใช้ชื่อะไร ไม่รู้สรุปว่าไง แต่สุดท้ายก็เป็นนามปากกา iannnnn บนปก แล้วคนที่ไม่รู้จักหรือนับตัว n แล้วตาลายจะอ่านออกเสียงว่าไงวะ (ทำไมตอนตั้งชื่อนี้ถึงไม่คิด)
การเขียนต้นฉบับเล่มนี้ผมเขียนด้วยมือถือเกือบทั้งเล่มครับ คือทำงานประจำไง วันๆ ไม่มีเวลาว่าง จะไปว่างก็อีตอนอยู่บนรถไฟฟ้า เลยใช้ Galaxy Note นี่แหละค่อยๆ เขียนสะสมวันละนิดวันละหน่อยบน Google Docs แล้วทยอยส่งออนไลน์เลย เวลาคอมเมนต์แก้งานก็แก้แบบเรียลไทม์ ไม่รู้ว่าในบ้านเรามีคนเคยทำอะไรคล้ายๆ งี้รึเปล่า เพราะพอทำๆ ไปแล้วผมพบว่าระบบการผลิตต้นฉบับด้วยวิธีนี้ดีมากๆ ทั้งกับผู้เขียนเองและกอง บ.ก.ที่คอยไล่บี้ทวงงานเลยครับ ดีจนอยากให้นักเขียนท่านอื่นๆ ได้ลองดู รับรองชีวิตคุณจะดีขึ้นมาก มีลูก มีเมีย มีบ้าน มีรถ…
หนังสือเล่มนี้มีฉากวาบหวิวอยู่นิดหน่อย และมีคำหยาบแบบไอ้เหี้ย อีห่า อะไรแบบนี้นานๆ ครั้ง แต่ส่วนมากจะเป็นเนื้อหาออกแนวหล่อๆ โลกสวย อ่านสบายใจ ไม่เป็นพิษภัยต่อเด็กโข่งครับ
แจกลายเซ็นนอกรอบวันนี้ทำให้พบว่ามีผู้อ่านเป็นสาวตึงเยอะเลย! ที่แท้พวกหล่อนก็อยากจะมีลูกกันใช่ไหม เสียใจด้วยนะ ฉันไม่ว่างแล้ว (พิมพ์บรรทัดนี้จบก็โดนเมียต่อย)
ชื่อหนังสือ “คือปะป๊าครองพิภพ” นั้น ถูกตั้งขึ้นมาก่อนที่จะลงมือเขียนซะอีก แล้วอี บ.ก.ดันถูกใจ เลยเอาเลย
ภาพวาด โลโก้ และดีไซน์หน้าปกนั้น ที่จริงผมร่างไว้หลายๆ แบบไปให้สำนักพิมพ์ดู ปรากฏว่าอี บ.ก.ดันถูกใจ เลยเอาเลย (เอ๊ะ คุ้นยังกะก็อปมาจากบรรทัดบน)
แหม จะเขียนอะไรเกี่ยวกับหนังสือตัวเองเยอะๆ ก็เขิน เอาเป็นว่าถ้าสนใจก็ไปหาโอกาสลูบๆ คลำๆ ดูด้วยตาคุณเอง ถ้าชอบก็สแกนแจกตามเว็บบิตมาอุดหนุนกันได้ครับ เล่มละ 185 บาท แต่ซื้อในงานได้ลดอีกหลายร้อยบาท (มันจะเหลืออะไรวะ) ทั้งนี้เงินทุกบาททุกสตางค์ที่ได้รับจากการขายหนังสือเล่มนี้ คุณจะได้เป็นหนึ่งในผู้ร่วมสมทบทุนกองทุนค่านมลูกและกระเป๋ารองเท้าเมียผมครับ
สุดท้ายนี้ขอแปะภาพบางส่วนที่ไปขอถ่ายเหล่าผู้มีพระคุณเซ็ตแรกสุดๆ ที่มาต่อคิวให้เซ็นกันทำไมก็ไม่รู้ ขอบคุณที่ให้เกียรตินะครับ ซึ้งใจมากๆ จริงๆ สุดๆ เสียดายบางคนลืมถ่ายเพราะมันแต่ตื่นเต้น ขออภัยครับ มือใหม่จริงๆ (แต่บางคนก็เป็นทีมแซลมอนนี่แหละ ทำเนียนๆ หยิบหนังสือมาให้เซ็นด้วย ร้ายกาจนัก)
อ้อ แล้วผมจะไปเฝ้าบูธแซลมอน (Y11 ฮอลล์ A) ตั้งแต่18:00 น. เป็นต้นไป ในวันที่ 1-4 เมษายนนี้ ใครจะไปงานหนังสือก็แวะทักทายและให้อาหารได้นะครับ หรือใครขี้เกียจไป ก็เจอกันตามแผงขายปลาและผักสดทั่วประเทศเร็วๆ นี้แหละ ขอบคุณครับ