2010 / 2553

ทีแรกเราว่าจะไม่เขียน (แน่นอน ถ้าเปิดมาแบบนี้แสดงว่าบล็อกนี้ยาวชัวร์)





แต่พอเห็นมิตรสหายใกล้และไกลต่างเขียนถึงช่วงชีวิตของตนในทศวรรษที่ผ่านมาแบบย่อๆ เฮ้ยอ่านแล้วเพลินดีว่ะ กอปรกับการได้เห็นไฟล์ Google Docs ของตัวเองที่ร่างไว้เมื่อปีที่แล้ว ชื่อไฟล์ว่า “2018” นั่นแปลว่าความตั้งใจในการสรุปเรื่องราวในช่วงสองปีที่ผ่านมานั้นล้มเหลวสิ้นดี อายตัวเอง





เลยขอกลับมาเล่นใหญ่ สรุปแม่งเลย สิบปี แยกเป็นสิบบล็อกต่อกัน (ทยอยเขียนนะ) อย่างน้อยก็ได้เอาไว้ย้อนอ่านชีวิตตัวเองในฐานะของคนที่ขี้ลืมมาก มากๆ จนเสียดาย…





ดีอย่างที่ชอบบันทึกอะไรๆ ด้วยรูปภาพตลอดมา และจัดเก็บเรียงเป็นโฟลเดอร์ตามวันที่ (นับจำนวนภาพถึงตอนนี้ก็น่าจะเกือบล้านแล้ว) เลยขอเปิดดูประกอบการเขียน ก็เออ ช่วยได้เยอะ คือบรรทัดถัดจากนี้ไปให้เข้าใจตรงกันนะครับว่าผมเองลืมไปหมดแล้ว มารู้ก็ตอนที่เปิด Google Drive ในชื่อโฟลเดอร์ที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา แล้วก็พูดถึงมัน…





เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เริ่มเลยนะ





อายุ 28 เพิ่งแต่งงานได้ไม่นาน แฮปปี้มาก มีเมียทันใช้ ตอนนั้นเมียยังไม่ดุเพิ่งซื้อบ้านอยู่หมู่บ้านจัดสรรย่านลาดปลาเค้าได้ไม่นานวิถีชีวิตยังผูกพันกับกลุ่มเพื่อนๆ พี่น้องชาวเว็บฟอนต์ ที่เป็นช่วงปลายๆ ของยุคคอมมูนิตี้เว็บบอร์ดแล้ว หลังจากนั้นก็ค่อยๆ ล่มสลาย พร้อมกับความนิยมของเฟซบุ๊กที่มาแทนในปีถัดๆ มาการทำเว็บฟอนต์ได้นำพาเราสู่ตัวตนในวงการกราฟิกดีไซน์ เราถูกแปะป้ายว่าเป็นคนสายกราฟิกและไอทีไปพร้อมกัน (มีครั้งนึงถูกลากไปเป็นผู้ตัดสินอีเวนต์ระดับ Cut & Paste เอย TFace เอย แบบรู้สึกว่าความสามารถของตัวเองไม่ควรค่าสักนิด)เป็นปีที่เริ่มเห็นว่าวงการไอทีและออนไลน์มาร์เก็ตติ้ง ค่อยๆ หลอมรวมกัน โลกออนไลน์ในไทยบูมสุดขีดเหมือนมีใครไปกดระเบิด แล้วมันก็ได้สร้าง “ไอ้แอนนนนน” ให้โผล่ขึ้นมามีไฟส่องหน่อยนึง ไปโผล่ตามนิตยสารเล่มนั้นเล่มนี้ แหมมาพูดตอนนี้ก็อาย แต่พอมองกลับไปก็คงเป็นยุคสมัยของมันจริงๆ คือตามวัยแล้ว ลึกๆ ตอนนั้นก็ภูมิใจในการเป็นซัมวันบ้างแหละครับ (แต่พอมามองตอนนี้ หนีได้ก็หนี กลายเป็นวัยแห่งการสลายตัวตน)ทำเว็บเฟล เป็นประสบการณ์อันมีค่ามากในช่วงชีวิตนั้น ได้ลองผิดลองถูกนั่นนี่มากมาย แต่สารภาพว่าลืมรายละเอียดไปเกือบหมดแล้ว (ถ้าสนใจ ลองอ่าน สารจาก(อดีต)เฟลาธิการ)เล่นทวิตเตอร์ตั้งแต่ยุคแรก เล่นแบบเสพติดและผ่อนคลายกว่าเดี๋ยวนี้มากๆ ส่วนใหญ่คุยกับคนในวงการไอที จนรู้จักทักทาย หลายคนยังเป็นมิตรสหายกันมาจนทุกวันนี้เล่นไปเล่นมา คนตามเยอะ ทักษิณยังตาม 555555 จนได้ไปพูดบนหลายๆ เวทีในฐานะของอะไรไม่รู้ ได้ตังค์ด้วย เยอะด้วย (เลยได้สกิลการนำเสนอบนเวทีมา) เพราะทวิตเตอร์ยุคแรกมันขับเคลื่อนด้วยนักการตลาดน่ะครับ เลยได้ความรู้เรื่องการตลาดและตัวตนออนไลน์ของยุคนั้นมา (ออกตัว: เป็นที่รู้กันว่าไอ้วิชาพวกนี้มันมีอายุของมัน การที่ตอนนั้นรู้ ไม่ได้แปลว่าใช้ได้จนทุกวันนี้ เพราะความรู้ และโลกทัศน์มันเปลี่ยนแปลงไปตลอด มาย้อนดูสไลด์ #SMCON, #TWTCON, WordCamp ก็พบว่าแม่งโคตรเชย เช่นเคยทำนายว่าต่อไปคนนึกถึงอินเทอร์เน็ต จะนึกถึงเฟซบุ๊ก ไม่ใช่กูเกิล หรือบอกว่าต่อไปทุกเว็บจะปุ่มแชร์ออก มีโซเชียลเป็นฉากหน้า ไรงี้ เดี๋ยวนี้เด็กประถมก็รู้แล้ว)เห็นคนอื่นพูดเรื่องงานเป็นหลัก ทีแรกจะไม่พูดถึงเลยก็ไม่ได้ – ช่วงนี้เปิดร้านสกรีนเสื้อเต็มตัว ขายดีมากเพราะเป็นเจ้าแรกๆ ที่ทำตลาดออนไลน์ (ขายดีกว่าสมัยนี้ที่ทุกคนทำกันเป็นปกติ และในแง่ธุรกิจ เราเองก็ดันไม่ได้ใส่พลังลงไปเท่าที่ควร)อีกงานคือทำสตูดิโอรับจ้างทำเว็บไซต์กับปิงและโบว์ เป็นแก๊งสามช่าแห่งวังหิน ที่ทำไปทำมาก็จับโปรเจกต์ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ จนงานใหญ่ที่สุดถึงขนาดเปลี่ยนชีวิตเลยคือการได้ทำเว็บ zheza.com (ตอนนี้เว็บยังอยู่!?) ทำให้ได้เข้าไปนั่งประจำการที่อาร์เอส แล้วก็ปั้นโปรเจกต์ SkoolBuz (เป็น zheza ในโหมดการศึกษา)ถึงจะไม่ชอบตัวเองในสถานะเมเนเจอร์เลย เพราะมันต้องใช้สมองไปทำอย่างอื่น (ที่อิหยังวะ) ซะเยอะ แถมยังมีทีมอีกตั้งหลายสิบชีวิตที่ต้องลากถูไปด้วยกันแต่พอมองย้อนกลับไปจากจุดนี้ก็พบว่าสกิลที่ได้มามันเป็นสกิลผู้บริหาร ที่ทำให้ตัวเองเปลี่ยนจากคนที่ค่อนข้างอ่อนน้อมและเหนียมแบบมึงเหนียมไปทำไมวะ มาเป็นคนที่แข็งกร้าวขึ้น ความแข็งกร้าวนี้เราไม่เคยมีมาก่อน แน่นอน ข้อเสียก็มี ข้อดีที่เคยคิดว่าไม่น่าจะมี ก็ดันมีได้ไปคอนเสิร์ตบิ๊กเมาเท่นครั้งที่ 1 (แล้วก็ไม่ได้มีโอกาสไปอีกเลย)พอมีสังคมออนไลน์แล้ว เราเลยชอบไปฟังและดูสัมมนา จำพวกบาร์แคมป์ รี้ดแคมป์ นั่นนี่แคมป์เพียบ ส่วนใหญ่เป็นงานฟรี ใช้ใจอย่างเดียวเลย ตังค์ไม่ต้อง มันจะเป็นยุคแห่งการคอนทริบิวต์น่ะเนอะ (เดี๋ยวนี้เปลี่ยนเป็น TED ต่างๆ ไปแล้ว ไม่ใช่แนวเราเท่าไหร่…)ก็เหมือนกับที่โลกออนไลน์ตอนนั้นเป็นช่วงเบ่งบาน มีนั่นนี่ให้ใช้ให้เล่นฟรี ระเบิดความคิดสร้างสรรค์ และถ่ายทอดเคล็ดวิชากันอย่างไม่หวงก้าง หรือแม้แต่เก็บตังค์ คือสนุกมากๆ เสียดายที่เดี๋ยวนี้ไม่มีแล้ว กินโพนยางคำบ่อยมาก คงเพราะมีตติ้งกับชาวฟอนต์บ่อยเชี่ย นี่คือลืมไปหมดแล้วจริงๆ มานึกออกตอนเปิดดูโฟลเดอร์เก่าๆ นะ…



สรุปว่าปี 2010 ถือเป็นปีแห่งการอัปสกิลและเคล็ดวิชาในหลายๆ ด้าน ทั้งคอมพิวเตอร์, กราฟิก, การบริหาร, ครีเอทีฟ, คอนเนกชัน, อัปฐานะทางการเงินด้วย เป็นช่วงที่เปลี่ยนตัวเองจากปากกัดตีนถีบ มาเริ่มเข้าใจความเป็น “ชนชั้นกลาง” ละ





แม่งเป็นสเตตัสที่อยากคงไว้นานๆ (ในยุคนั้นน่ะนะ) 55555






The post 2010 / 2553 appeared first on iannnnn.com.

 •  0 comments  •  flag
Share on Twitter
Published on January 02, 2020 09:51
No comments have been added yet.