Alicia Kachmar's Blog, page 2
February 20, 2024
ความคุ้มครองประกันตัวผู้ขับขี่ในประกันรถยนต์ดียังไง? ทำไมควรมี?
การเป็นเจ้าของรถยนต์ไม่เพียงแค่เกี่ยวข้องกับการขับขี่และการดูแลรักษาเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวข้องกับความรับผิดชอบต่อกฎหมายและสังคม เมื่อเกิดเหตุรถหรือสถานการณ์ที่เกี่ยวข้องกับการขับขี่ คุณอาจต้องเผชิญกับกฎหมายและการขึ้นศาลเรื่องรถในที่สุด การมีประกันรถส่วนบุคคลจะเป็นสิ่งที่ช่วยคุณมั่นใจในเวลาที่คุณต้องเผชิญกับกระบวนการนี้
เมื่อเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายเกี่ยวกับเรื่องรถและการขึ้นศาล คุณอาจพบคำถามที่มักถามกันบ่อย ดังนี้
1. ฉันควรทำอย่างไรถ้ามีการเกิดอุบัติเหตุที่เกี่ยวกับรถของเรา?
– หากเกิดอุบัติเหตุ ควรรายงานเหตุการณ์ให้กับตำรวจหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยทันที และติดต่อบริษัทประกันความเพื่อขอคำปรึกษาเกี่ยวกับขั้นตอนที่ควรทำต่อไป
2. ฉันควรติดต่อบริษัทประกันอย่างไรหลังจากเกิดอุบัติเหตุ?
– ควรติดต่อบริษัทประกันของคุณโดยเร็วที่สุดเพื่อรายงานอุบัติเหตุและขอความช่วยเหลือในกระบวนการชดเชยที่เกี่ยวข้อง
3. การดำเนินคดีในศาลจะใช้เวลานานเท่าไหร่?
– ระยะเวลาที่ใช้ในการดำเนินคดีสามารถแตกต่างกันไปตามลักษณะของคดีและระดับของความซับซ้อน
4. เราควรทำอย่างไรเมื่อถูกฟ้องด้วยข้อหาที่เกี่ยวข้องกับรถ?
– หากคุณถูกฟ้องคดีทางกฎหมายเกี่ยวกับรถ ควรติดต่อทนายความเพื่อขอคำปรึกษาและการสนับสนุนในกระบวนการทางกฎหมาย
5. เราสามารถใช้กฎหมายจราจรในการป้องกันตนเองได้ไหม?**
– กฎหมายจราจรมีบทบาทสำคัญในการป้องกันตนเองและผู้อื่นในทางถนน การปฏิบัติตามกฎหมายการจราจรอย่างสม่ำเสมอสามารถช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุได้
6. ฉันควรทำอย่างไรเมื่อขับขี่รถเสียหายหรือมีปัญหาทางเทคนิค?
– หากเกิดปัญหาทางเทคนิคระหว่างการขับขี่ ควรหยุดรถอย่างปลอดภัยและติดต่อบริการช่วยเหลือถนนหรือทางอื่นที่เกี่ยวข้องเพื่อขอความช่วยเหลือ
การเผชิญหน้ากับกระบวนการทางกฎหมายเกี่ยวกับรถอาจเป็นเรื่องที่ซับซ้อน แต่การทราบข้อมูลและการรับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญสามารถช่วยให้คุณเตรียมตัวได้อย่างเหมาะสม
การเผชิญหน้ากับกระบวนการทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับรถไม่ได้เป็นเรื่องง่ายเสมอไป เนื่องจากมีความซับซ้อนของกฎหมายเองแล้วยังมีเงื่อนไขและกระบวนการที่ต้องทำให้เหมาะสมเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ทั้งนี้เพื่อการป้องกันและการเตรียมตัวที่เหมาะสมในกระบวนการทางกฎหมายที่ซับซ้อนนี้ เราได้รวบรวมข้อมูลที่สำคัญที่สุดเพื่อให้คุณเตรียมตัวได้อย่างเหมาะสม ดังนี้
เตรียมตัวก่อนการเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย
ก่อนที่จะเริ่มต้นในกระบวนการทางกฎหมายเกี่ยวกับรถ สิ่งสำคัญที่สุดคือการเตรียมตัวให้เรียบร้อย ศึกษากฎหมายที่เกี่ยวข้องและเข้าใจสิทธิและหน้าที่ของคุณในกระบวนการทางกฎหมาย
สื่อสารกับทนายความ
เมื่อคุณพบว่าตัวเองอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องการความช่วยเหลือกฎหมายเกี่ยวกับรถ คุณควรติดต่อทนายความที่มีความเชี่ยวชาญในเรื่องรถ การค้นหาทนายความที่เหมาะสมและมีประสบการณ์จะช่วยให้คุณได้รับคำปรึกษาและการสนับสนุนที่มีประโยชน์
เตรียมคำชี้แจง
การเตรียมคำชี้แจงให้เป็นที่พร้อมเป็นสิ่งสำคัญในการขึ้นศาล เตรียมเอกสารและหลักฐานที่เกี่ยวข้องให้ครบถ้วนและชัดเจน เพื่อให้ทนายความของคุณสามารถแสดงให้เห็นว่าคุณมีเหตุผลที่น่าเชื่อถือและมีความพร้อมในการทำตามกฎหมาย
อุบัติเหตุเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นโดยที่ไม่มีใครคาดคิด และถึงแม้จะเป็นฝ่ายผิดก็เกิดขึ้นจากหลายสาเหตุ แต่ก็มักจะไม่ได้ตั้งใจหรืออยากให้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น วงเงินประกันตัวผู้ต้องหาจะขึ้นอยู่กับความรุนแรงของคดีความ รวมไปถึงพฤติกรรมของผู้ก่อเหตุ การประกันตัวคดีอาญานั้นหากเป็นคดีความที่ไม่ร้ายแรง ค่าประกันอาจอยู่ที่หลักหมื่นบาท แต่ในกรณีที่เกิดเหตุร้ายแรงมาก อาจมีการฟ้องร้องกัน จนถึงขั้นต้องขึ้นศาลได้ และถ้าหากเราไม่ได้ซื้อประกันรถยนต์ติดไว้ ก็ต้องนำเงินของตัวเองหรือของญาติพี่น้องพ่อแม่ออกมาเพื่อประกันตัว หรือนำมาต่อสู้ในชั้นศาล
The post ความคุ้มครองประกันตัวผู้ขับขี่ในประกันรถยนต์ดียังไง? ทำไมควรมี? appeared first on Alicia Kachmar.
ทำไมคุณควรใส่ใจถึงการคุ้มครองทางกฎหมายเมื่อเกิดเหตุกับรถแล้วคุณต้องขึ้นศาล?
การเป็นเจ้าของรถยนต์ไม่เพียงแค่เกี่ยวข้องกับการขับขี่และการดูแลรักษาเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวข้องกับความรับผิดชอบต่อกฎหมายและสังคม เมื่อเกิดเหตุรถหรือสถานการณ์ที่เกี่ยวข้องกับการขับขี่ คุณอาจต้องเผชิญกับกฎหมายและการขึ้นศาลเรื่องรถในที่สุด การมีประกันรถส่วนบุคคลจะเป็นสิ่งที่ช่วยคุณมั่นใจในเวลาที่คุณต้องเผชิญกับกระบวนการนี้
เมื่อเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายเกี่ยวกับเรื่องรถและการขึ้นศาล คุณอาจพบคำถามที่มักถามกันบ่อย ดังนี้
1. ฉันควรทำอย่างไรถ้ามีการเกิดอุบัติเหตุที่เกี่ยวกับรถของเรา?
– หากเกิดอุบัติเหตุ ควรรายงานเหตุการณ์ให้กับตำรวจหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยทันที และติดต่อบริษัทประกันความเพื่อขอคำปรึกษาเกี่ยวกับขั้นตอนที่ควรทำต่อไป
2. ฉันควรติดต่อบริษัทประกันอย่างไรหลังจากเกิดอุบัติเหตุ?
– ควรติดต่อบริษัทประกันของคุณโดยเร็วที่สุดเพื่อรายงานอุบัติเหตุและขอความช่วยเหลือในกระบวนการชดเชยที่เกี่ยวข้อง
3. การดำเนินคดีในศาลจะใช้เวลานานเท่าไหร่?
– ระยะเวลาที่ใช้ในการดำเนินคดีสามารถแตกต่างกันไปตามลักษณะของคดีและระดับของความซับซ้อน
4. เราควรทำอย่างไรเมื่อถูกฟ้องด้วยข้อหาที่เกี่ยวข้องกับรถ?
– หากคุณถูกฟ้องคดีทางกฎหมายเกี่ยวกับรถ ควรติดต่อทนายความเพื่อขอคำปรึกษาและการสนับสนุนในกระบวนการทางกฎหมาย
5. เราสามารถใช้กฎหมายจราจรในการป้องกันตนเองได้ไหม?**
– กฎหมายจราจรมีบทบาทสำคัญในการป้องกันตนเองและผู้อื่นในทางถนน การปฏิบัติตามกฎหมายการจราจรอย่างสม่ำเสมอสามารถช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุได้
6. ฉันควรทำอย่างไรเมื่อขับขี่รถเสียหายหรือมีปัญหาทางเทคนิค?
– หากเกิดปัญหาทางเทคนิคระหว่างการขับขี่ ควรหยุดรถอย่างปลอดภัยและติดต่อบริการช่วยเหลือถนนหรือทางอื่นที่เกี่ยวข้องเพื่อขอความช่วยเหลือ
การเผชิญหน้ากับกระบวนการทางกฎหมายเกี่ยวกับรถอาจเป็นเรื่องที่ซับซ้อน แต่การทราบข้อมูลและการรับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญสามารถช่วยให้คุณเตรียมตัวได้อย่างเหมาะสม
การเผชิญหน้ากับกระบวนการทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับรถไม่ได้เป็นเรื่องง่ายเสมอไป เนื่องจากมีความซับซ้อนของกฎหมายเองแล้วยังมีเงื่อนไขและกระบวนการที่ต้องทำให้เหมาะสมเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ทั้งนี้เพื่อการป้องกันและการเตรียมตัวที่เหมาะสมในกระบวนการทางกฎหมายที่ซับซ้อนนี้ เราได้รวบรวมข้อมูลที่สำคัญที่สุดเพื่อให้คุณเตรียมตัวได้อย่างเหมาะสม ดังนี้
เตรียมตัวก่อนการเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย
ก่อนที่จะเริ่มต้นในกระบวนการทางกฎหมายเกี่ยวกับรถ สิ่งสำคัญที่สุดคือการเตรียมตัวให้เรียบร้อย ศึกษากฎหมายที่เกี่ยวข้องและเข้าใจสิทธิและหน้าที่ของคุณในกระบวนการทางกฎหมาย
สื่อสารกับทนายความ
เมื่อคุณพบว่าตัวเองอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องการความช่วยเหลือกฎหมายเกี่ยวกับรถ คุณควรติดต่อทนายความที่มีความเชี่ยวชาญในเรื่องรถ การค้นหาทนายความที่เหมาะสมและมีประสบการณ์จะช่วยให้คุณได้รับคำปรึกษาและการสนับสนุนที่มีประโยชน์
เตรียมคำชี้แจง
การเตรียมคำชี้แจงให้เป็นที่พร้อมเป็นสิ่งสำคัญในการขึ้นศาล เตรียมเอกสารและหลักฐานที่เกี่ยวข้องให้ครบถ้วนและชัดเจน เพื่อให้ทนายความของคุณสามารถแสดงให้เห็นว่าคุณมีเหตุผลที่น่าเชื่อถือและมีความพร้อมในการทำตามกฎหมาย
อุบัติเหตุเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นโดยที่ไม่มีใครคาดคิด และถึงแม้จะเป็นฝ่ายผิดก็เกิดขึ้นจากหลายสาเหตุ แต่ก็มักจะไม่ได้ตั้งใจหรืออยากให้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น วงเงินประกันตัวผู้ต้องหาจะขึ้นอยู่กับความรุนแรงของคดีความ รวมไปถึงพฤติกรรมของผู้ก่อเหตุ การประกันตัวคดีอาญานั้นหากเป็นคดีความที่ไม่ร้ายแรง ค่าประกันอาจอยู่ที่หลักหมื่นบาท แต่ในกรณีที่เกิดเหตุร้ายแรงมาก อาจมีการฟ้องร้องกัน จนถึงขั้นต้องขึ้นศาลได้ และถ้าหากเราไม่ได้ซื้อประกันรถยนต์ติดไว้ ก็ต้องนำเงินของตัวเองหรือของญาติพี่น้องพ่อแม่ออกมาเพื่อประกันตัว หรือนำมาต่อสู้ในชั้นศาล
The post ทำไมคุณควรใส่ใจถึงการคุ้มครองทางกฎหมายเมื่อเกิดเหตุกับรถแล้วคุณต้องขึ้นศาล? appeared first on Alicia Kachmar.
February 17, 2024
ยางรถยนต์เก่า…อย่าทิ้ง! นำมารีไซเคิลเพื่อประโยชน์สูงสุด
ยางรถยนต์เก่า…อย่าทิ้ง! นำมารีไซเคิลเพื่อประโยชน์สูงสุด
ยางรถยนต์ เป็นสิ่งของที่เราคุ้นเคยและพบเห็นได้ทั่วไป แต่รู้หรือไม่ว่า ยางรถเก่าที่เราเปลี่ยนออกมานั้น สามารถนำมารีไซเคิล เพื่อต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ที่มีประโยชน์มากมาย
นวัตกรรมยางรถยนต์สร้างจากดอกไม้ และขวดพลาสติกรีไซเคิล
จะเป็นการใช้วัสดุในการผลิตรูปแบบใหม่ที่กำลังพัฒนาและคิดค้นโดยแบรนด์ยางอย่าง Continental ที่เลือกใช้ยางจากดอกไม้ และ ขวดพลาสติกรีไซเคิลได้ ซึ่งเป็นอะไรที่ดูดีมากๆ เพราะการใช้วัสดุทดแทนในรูปแบบนี้ทั้งช่วยในเรื่องของลดปริมาณขยะได้เป็นอย่างมาก เพราะทุกท่านรู้ดีอยู่แล้วว่าขวดพลาสติกนั้นกว่าจะย่อยสลายใช้เวลา 450 ปี รวมถึงลดปริมาณส่วนผสมที่ส่งผลต่อคาร์บอนไดออกไซด์ จากน้ำมันดิบโดยใช้ส่วนผสมอย่างน้ำมันเรซินเป็นส่วนผสมที่มาทดแทนซึ่งเป็นวัตถุดิบที่สามารถนำมาทดแทนได้และสมรรถนะของยางก็ดีขึ้นด้วยซึ่งเป็นมิตรต่อโลกของเรามากๆ
นวัตกรรมยางรถยนต์สร้างจากน้ำมันปาล์ม และเปลือกส้ม
นอกจากนี้ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ยาง Yokohama ก็ยังหันมาใช้วัตถุดิบที่ทำมาจาก น้ำมันปาล์ม และ เปลือกส้ม เพื่อนๆอ่านไม่ผิดครับ เปลือกส้มครับรวมถึงวัสดุต่างๆที่เป็นสิ่งของที่กำลังจะถูกนำไปรีไซเคิลก็สามารถนำกลับมาใช้ได้ซึ่งทาง Yokohama ก็ออกมาเคลมว่าสภาพยางที่มีส่วนผสมที่ต่างจากปัจจุบันนั้นไม่ได้ส่งผลเสียต่อสมรรถนะของยางรถยนต์เลยโดยได้ทำการทดสอบกับรถ Formula 1 เลยนะครับเพื่อนๆ เพราะฉะนั้นสบายใจได้ครับไม่ว่าจะใช้อะไรทดแทนเรื่องความปลอดภัยในการยึดเกาะถนนยังเป็นปัจจัยแรก และ ปัจจัยหลักที่ผู้ผลิตยางต้องการใส่ใจมากที่สุดเพื่อให้เพื่อนทุกๆท่านมีความปลอดภัยในการขับขี่
ยางรถเก่า…สร้างปัญหาใหญ่ให้โลก
ยางรถยนต์ที่ถูกปล่อยทิ้งไว้โดยไม่ผ่านกระบวนการรีไซเคิลนั้น ก่อให้เกิดปัญหามากมายต่อสิ่งแวดล้อม เช่น
กลายเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุง เนื่องจากยางรถเก่าที่กักเก็บน้ำนิ่ง กลายเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย สาเหตุของโรคไข้เลือดออก ทั้งยังมีผลกระทบต่อมลพิษทางดิน ยางรถยนต์ใช้เวลาย่อยสลายนานกว่า 1,000 ปี และสารเคมีจากยางรถเก่าอาจปนเปื้อนในดินและน้ำด้วย ยังไม่เพียงเท่านี้ ยังคงมีผลกระทบต่อมลพิษทางอากาศ เช่น การเผายางรถเก่าปล่อยก๊าซพิษ CO2 สู่ชั้นบรรยากาศ ทำให้เกิดกาศเรือนกระจกซึ่งทำให้โลกร้อน
รีไซเคิลยางรถยนต์…เพื่อโลกของเรา
วิธีการรีไซเคิลยางรถยนต์
แยกส่วนประกอบ ยางรถเก่าจะถูกนำมาแยกส่วนประกอบออกเป็น ยาง ผ้าใบ และโลหะบดเป็นชิ้นเล็ก ยางจะถูกบดเป็นชิ้นเล็ก ๆ เรียกว่า “ยางผง”นำไปผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่: ยางผง สามารถนำไปผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ได้มากมาย เช่นถนนยางมะตอย: ผสมยางผง กับหินและน้ำยางมะตอยสนามเด็กเล่น: พื้นสนามเด็กเล่น อย่างที่เราเห็นตามสวนสาธารณะจะเป็นพื้นจากยางรถยนต์แผ่นรองพื้น: รองพื้นสนามหญ้าเทียม ลานกีฬาผลิตภัณฑ์ยาง: กันชน โซ่ยาง ล้อรถเข็นนอกจากนี้ในอนาคตยังมีการจัดเก็บภาษีสิ่งแวดล้อมกับยางรถยนต์ และสุดท้ายที่อยากจะพูดถึงที่สุด เนื่องด้วยสภาวะโลกที่เปลี่ยนไป มลพิษที่เยอะขึ้นทำให้ทุกองค์กร ทุกผู้ผลิตเริ่มให้ความใส่ใจมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะประเทศที่พัฒนาแล้วก็มีการคำนวณสินค้าสิ้นเปลืองมาเป็นเรทอัตราภาษีอีกด้วย จะยกตัวอย่างง่ายๆ สมมติว่าเราทำธุรกิจขนส่งและยางเป็นสิ่งที่ต้องซื้อหากคุณยิ่งซื้อยางรถบรรทุกมากเท่ากับคุณส่งเสริมการทำลายสภาพแวดล้อมมากเท่านั้น ดังนั้นคุณจะถูกคำนวนภาษีสิ่งแวดล้อมจากค่าใช้จ่ายของยางอีกด้วย เพราะฉะนั้นคุณก็ควรหาวิธีที่จะทำยังไงก็ได้ให้ค่ายางรถยนต์ของคุณลดลงเพื่อจะได้ไม่ต้องโดนยอดคำนวนภาษีดังกล่าว ถ้าถามว่าในเมืองไทยใกล้แล้วรึยังที่จะออกกฎหมายนี้ เอาจริงๆใกล้แล้ว ภายใน 3-5 ปีนี้จะเป็นอะไรที่ official มากขึ้น เพราะฉะนั้นภาษีสิ่งแวดล้อมก็เป็นส่วนหนึ่งที่ผู้ที่ทำเกี่ยวกับสิ่งนี้ต้องทราบ และ นำมาคำนวณเป็นค่าใช้จ่ายในด้านภาษีในอนาคตอีกด้วย
The post ยางรถยนต์เก่า…อย่าทิ้ง! นำมารีไซเคิลเพื่อประโยชน์สูงสุด appeared first on Alicia Kachmar.
February 10, 2024
ยางรถยนต์เก่า…อย่าทิ้ง! นำมารีไซเคิลเพื่อประโยชน์สูงสุด
ยางรถยนต์ เป็นสิ่งของที่เราคุ้นเคยและพบเห็นได้ทั่วไป แต่รู้หรือไม่ว่า ยางรถเก่าที่เราเปลี่ยนออกมานั้น สามารถนำมารีไซเคิล เพื่อต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ที่มีประโยชน์มากมาย
นวัตกรรมยางรถยนต์สร้างจากดอกไม้ และขวดพลาสติกรีไซเคิลจะเป็นการใช้วัสดุในการผลิตรูปแบบใหม่ที่กำลังพัฒนาและคิดค้นโดยแบรนด์ยางอย่าง Continental ที่เลือกใช้ยางจากดอกไม้ และ ขวดพลาสติกรีไซเคิลได้ ซึ่งเป็นอะไรที่ดูดีมากๆ เพราะการใช้วัสดุทดแทนในรูปแบบนี้ทั้งช่วยในเรื่องของลดปริมาณขยะได้เป็นอย่างมาก เพราะทุกท่านรู้ดีอยู่แล้วว่าขวดพลาสติกนั้นกว่าจะย่อยสลายใช้เวลา 450 ปี รวมถึงลดปริมาณส่วนผสมที่ส่งผลต่อคาร์บอนไดออกไซด์ จากน้ำมันดิบโดยใช้ส่วนผสมอย่างน้ำมันเรซินเป็นส่วนผสมที่มาทดแทนซึ่งเป็นวัตถุดิบที่สามารถนำมาทดแทนได้และสมรรถนะของยางก็ดีขึ้นด้วยซึ่งเป็นมิตรต่อโลกของเรามากๆ
นวัตกรรมยางรถยนต์สร้างจากน้ำมันปาล์ม และเปลือกส้มนอกจากนี้ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ยาง Yokohama ก็ยังหันมาใช้วัตถุดิบที่ทำมาจาก น้ำมันปาล์ม และ เปลือกส้ม เพื่อนๆอ่านไม่ผิดครับ เปลือกส้มครับรวมถึงวัสดุต่างๆที่เป็นสิ่งของที่กำลังจะถูกนำไปรีไซเคิลก็สามารถนำกลับมาใช้ได้ซึ่งทาง Yokohama ก็ออกมาเคลมว่าสภาพยางที่มีส่วนผสมที่ต่างจากปัจจุบันนั้นไม่ได้ส่งผลเสียต่อสมรรถนะของยางรถยนต์เลยโดยได้ทำการทดสอบกับรถ Formula 1 เลยนะครับเพื่อนๆ เพราะฉะนั้นสบายใจได้ครับไม่ว่าจะใช้อะไรทดแทนเรื่องความปลอดภัยในการยึดเกาะถนนยังเป็นปัจจัยแรก และ ปัจจัยหลักที่ผู้ผลิตยางต้องการใส่ใจมากที่สุดเพื่อให้เพื่อนทุกๆท่านมีความปลอดภัยในการขับขี่
ยางรถเก่า…สร้างปัญหาใหญ่ให้โลกยางรถยนต์ที่ถูกปล่อยทิ้งไว้โดยไม่ผ่านกระบวนการรีไซเคิลนั้น ก่อให้เกิดปัญหามากมายต่อสิ่งแวดล้อม เช่น
กลายเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุง เนื่องจากยางรถเก่าที่กักเก็บน้ำนิ่ง กลายเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย สาเหตุของโรคไข้เลือดออก ทั้งยังมีผลกระทบต่อมลพิษทางดิน ยางรถยนต์ใช้เวลาย่อยสลายนานกว่า 1,000 ปี และสารเคมีจากยางรถเก่าอาจปนเปื้อนในดินและน้ำด้วย ยังไม่เพียงเท่านี้ ยังคงมีผลกระทบต่อมลพิษทางอากาศ เช่น การเผายางรถเก่าปล่อยก๊าซพิษ CO2 สู่ชั้นบรรยากาศ ทำให้เกิดกาศเรือนกระจกซึ่งทำให้โลกร้อน
รีไซเคิลยางรถยนต์…เพื่อโลกของเราวิธีการ รีไซเคิลยางรถยนต์ แยกส่วนประกอบ ยางรถเก่าจะถูกนำมาแยกส่วนประกอบออกเป็น ยาง ผ้าใบ และโลหะบดเป็นชิ้นเล็ก ยางจะถูกบดเป็นชิ้นเล็ก ๆ เรียกว่า “ยางผง”นำไปผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่: ยางผง สามารถนำไปผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ได้มากมาย เช่นถนนยางมะตอย: ผสมยางผง กับหินและน้ำยางมะตอยสนามเด็กเล่น: พื้นสนามเด็กเล่น อย่างที่เราเห็นตามสวนสาธารณะจะเป็นพื้นจากยางรถยนต์แผ่นรองพื้น: รองพื้นสนามหญ้าเทียม ลานกีฬาผลิตภัณฑ์ยาง: กันชน โซ่ยาง ล้อรถเข็นนอกจากนี้ในอนาคตยังมีการจัดเก็บภาษีสิ่งแวดล้อมกับยางรถยนต์ และสุดท้ายที่อยากจะพูดถึงที่สุด เนื่องด้วยสภาวะโลกที่เปลี่ยนไป มลพิษที่เยอะขึ้นทำให้ทุกองค์กร ทุกผู้ผลิตเริ่มให้ความใส่ใจมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะประเทศที่พัฒนาแล้วก็มีการคำนวณสินค้าสิ้นเปลืองมาเป็นเรทอัตราภาษีอีกด้วย จะยกตัวอย่างง่ายๆ สมมติว่าเราทำธุรกิจขนส่งและยางเป็นสิ่งที่ต้องซื้อหากคุณยิ่งซื้อยางรถบรรทุกมากเท่ากับคุณส่งเสริมการทำลายสภาพแวดล้อมมากเท่านั้น ดังนั้นคุณจะถูกคำนวนภาษีสิ่งแวดล้อมจากค่าใช้จ่ายของยางอีกด้วย เพราะฉะนั้นคุณก็ควรหาวิธีที่จะทำยังไงก็ได้ให้ค่ายางรถยนต์ของคุณลดลงเพื่อจะได้ไม่ต้องโดนยอดคำนวนภาษีดังกล่าว ถ้าถามว่าในเมืองไทยใกล้แล้วรึยังที่จะออกกฎหมายนี้ เอาจริงๆใกล้แล้ว ภายใน 3-5 ปีนี้จะเป็นอะไรที่ official มากขึ้น เพราะฉะนั้นภาษีสิ่งแวดล้อมก็เป็นส่วนหนึ่งที่ผู้ที่ทำเกี่ยวกับสิ่งนี้ต้องทราบ และ นำมาคำนวณเป็นค่าใช้จ่ายในด้านภาษีในอนาคตอีกด้วย
The post ยางรถยนต์เก่า…อย่าทิ้ง! นำมารีไซเคิลเพื่อประโยชน์สูงสุด appeared first on Alicia Kachmar.
February 7, 2024
การใช้วรรณกรรมในการสร้างสมาธิและการพัฒนาความคิด

วรรณกรรมเป็นสื่อที่มีพลังอันยิ่งใหญ่ในการพัฒนาจิตใจและปัญญาของมนุษย์ นอกจากจะให้ความบันเทิงและความรู้แล้ว การอ่านงานเขียนที่มีคุณภาพยังเป็นเครื่องมือที่สามารถฝึกสมาธิและกระตุ้นให้เกิดการคิดวิเคราะห์ได้อย่างน่าอัศจรรย์ โดยมีกระบวนการและประโยชน์ที่น่าสนใจ ดังนี้
การอ่านช้าและตั้งใจจะช่วยฝึกสมาธิและจิตใจให้สงบนิ่ง การอ่านหนังสือที่มีคุณภาพนั้นต้องทำด้วยความรอบคอบและใจจดจ่ออยู่กับเนื้อหาอย่างแท้จริง ท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่เงียบสงบและปราศจากสิ่งรบกวน กระบวนการนี้จะฝึกสมาธิของผู้อ่านให้แน่วแน่และจิตใจสงบนิ่ง มุ่งความสนใจไปที่บรรทัดและตัวอักษรเพียงอย่างเดียว นับเป็นการฝึกสมาธิแบบธรรมชาติที่ช่วยให้จิตใจผ่อนคลายและว่างจากกังวล
การตีความและวิเคราะห์เนื้อหาจะกระตุ้นการคิดวิเคราะห์อย่างลึกซึ้ง นอกจากจะฝึกสมาธิได้แล้ว การอ่านยังเปิดโอกาสให้ผู้อ่านได้ตีความและวิเคราะห์เนื้อหาผ่านภาษาที่งดงามและความคิดของผู้ประพันธ์ เช่น การสังเกตรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่ซ่อนอยู่ในเนื้อเรื่อง หรือการหาข้อสรุปที่แฝงอยู่ในท่ามกลางบทสนทนาของตัวละคร กระบวนการนี้จะฝึกทักษะการคิดวิเคราะห์และการตีความอย่างลึกซึ้ง เพิ่มพูนความคิดสร้างสรรค์และมุมมองต่อสิ่งต่างๆ
การอ่านเปิดโลกทัศน์และทำให้เกิดแรงบันดาลใจ นอกจากนี้ เนื้อหาในงานเขียนยังเป็นช่องทางให้ผู้อ่านได้เปิดประสบการณ์ชีวิตใหม่ๆ ทั้งอดีตและปัจจุบัน ทั้งในโลกจริงและจินตนาการ ซึ่งจะขยายมุมมองและปลุกกระแสแรงบันดาลใจให้กับผู้อ่านในหลายๆ ด้าน อาจเป็นการเปิดโลกทัศน์ใหม่ ปลุกแรงผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงพัฒนาตนเอง หรือได้แนวคิดดีๆ ในการดำเนินชีวิต
การอ่านสร้างความผูกพันทางอารมณ์และความคิด ที่สำคัญ ตัวบทของวรรณกรรมนั้นสร้างความผูกพันทางอารมณ์ระหว่างผู้อ่านกับตัวละครและเนื้อเรื่อง ผู้อ่านจะรู้สึกเสมือนกำลังอยู่ในเหตุการณ์นั้นๆ ด้วย รับรู้อารมณ์ความรู้สึกของตัวละครราวกับเป็นของตนเอง ก่อให้เกิดทั้งความเข้าใจในชีวิตของผู้อื่นและการตรวจสอบความคิดความรู้สึกของตนเองผ่านสายตาใหม่ๆ กระบวนการนี้จึงเป็นการฝึกทักษะทางอารมณ์และการคิด
สรุปวรรณกรรมเป็นเครื่องมือชั้นเลิศที่มนุษย์ใช้สำหรับการฝึกสมาธิและพัฒนาความคิด โดยผ่านการอ่านที่ตั้งใจ การตีความและวิเคราะห์เนื้อหา การเปิดรับประสบการณ์ใหม่ๆ และการสร้างความผูกพันทางอารมณ์และจิตใจ กระบวนการเหล่านี้จะช่วยให้มนุษย์สามารถเพิ่มสมาธิจดจ่อ ทักษะการคิดวิเคราะห์ มุมมองต่อสิ่งต่างๆ รวมทั้งการเข้าใจตนเองและผู้อื่นมากขึ้น เป็นการพัฒนาคุณภาพชีวิตจิตใจไปพร้อมๆ กับการเสพงานศิลปะอันงดงามอย่างวรรณกรรม
The post การใช้วรรณกรรมในการสร้างสมาธิและการพัฒนาความคิด appeared first on Alicia Kachmar.
January 26, 2024
ผลกระทบที่ไม่อาจมองข้าม
การเดินทางด้วยรถยนต์กลายเป็นเรื่องปกติและจำเป็นสำหรับคนส่วนใหญ่ แต่คุณรู้หรือไม่ว่าการใช้รถยนต์ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปล่อยควันดำ ซึ่งเป็นปัญหาที่ควรได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก ในบทความนี้ เราจะมาสำรวจถึงผลกระทบของควันดำและแนวทางในการลดการปล่อยควันดำจากรถยนต์
ควันดำเกิดจากอะไร?ควันดำมีผลกระทบอย่างไร?จะลดการปล่อยควันดำได้อย่างไร?ควันดำ หรือ Black Smoke เป็นควันที่มีสีดำเข้มและเกิดจากการเผาไหม้ที่ไม่สมบูรณ์ของเชื้อเพลิงในเครื่องยนต์ ส่วนใหญ่พบในรถยนต์เก่า รถบรรทุก และรถดีเซล ควันดำประกอบด้วยสารพิษหลายชนิด เช่น ฝุ่นละออง คาร์บอนมอนอกไซด์ ไฮโดรคาร์บอน และสารตะกั่ว ซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม
และยังมีสาเหตุอื่นๆ ดังนี้
ปรับแต่งปั๊มหัวฉีดไม่เหมาะสมหัวฉีดปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิงชำรุด ทำให้การฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงไม่เป็นฝอยควันดำจากน้ำมันเชื้อเพลิงรถยนต์มีคุณภาพต่ำเครื่องหลวมเนื่องจากลูกสูบ หรือกระบอกสูบชำรุดมีพฤติกรรมบรรทุกน้ำหนักเกินพิกัด ไส้กรองอากาศอุดตัน ทำให้อากาศเข้าไม่เพียงพอการรับผิดชอบต่อควันดำ ควันขาว เกิดจากรถยนต์ของเราเป็นสิ่งสำคัญ เพราะควันรถเหล่านี้ส่งผลเสียต่อสิ่งแวดล้อม และอาจทำให้คนอื่น ๆ บนท้องถนนเสี่ยงโรค ทั้งหลอดลมอักเสบหรือโรคมะเร็งปอดได้เลย รวมถึงรถควันขาวควันดำยังมีส่วนปล่อยฝุ่น PM 2.5 ซึ่งเป็นผลกระทบต่อคนอื่น ๆ ในวงกว้าง และส่งผลร้ายต่อสิ่งแวดล้อมและโลกของเราอีกด้วย แม้ว่าปัญหาควันดำจะมีผลกระทบอย่างมาก แต่ก็มีวิธีการลดการปล่อยควันดำที่สามารถดำเนินการได้ ดังนี้
การดูแลรักษารถยนต์ – ควรดูแลรักษารถยนต์อย่างสม่ำเสมอ เช่น เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง ตรวจเช็คระบบไอเสีย และปรับแต่งเครื่องยนต์การเลือกใช้น้ำมันเชื้อเพลิงที่ดี – ควรเลือกใช้น้ำมันเชื้อเพลิงที่มีคุณภาพและมาตรฐาน เพื่อลดการเกิดควันดำการขับขี่อย่างประหยัดน้ำมัน – การขับขี่อย่างนุ่มนวล ไม่เร่งเครื่องจัด และไม่เบรกกะทันหัน จะช่วยลดการปล่อยควันดำลงได้การใช้รถยนต์ที่มีเทคโนโลยีล้ำสมัย – รถยนต์รุ่นใหม่มักมีระบบควบคุมมลพิษที่ทันสมัย ช่วยลดการปล่อยควันดำได้มากกว่ารถยนต์เก่า1. ควันดำเกิดจากอะไร?
ควันดำเกิดจากการเผาไหม้ที่ไม่สมบูรณ์ของเชื้อเพลิงในเครื่องยนต์ ส่วนใหญ่พบในรถยนต์เก่า รถบรรทุก และรถดีเซล
2. ควันดำมีผลกระทบอย่างไร?
ควันดำส่งผลกระทบต่อมลพิษทางอากาศ สุขภาพของมนุษย์ และสิ่งแวดล้อม เช่น ก่อให้เกิดปัญหาหมอกควันและฝุ่นละออง ส่งผลเสียต่อระบบทางเดินหายใจ และทำลายระบบนิเวศ
3. จะลดการปล่อยควันดำได้อย่างไร?
การลดการปล่อยควันดำสามารถทำได้โดย การดูแลรักษารถยนต์อย่างสม่ำเสมอ การเลือกใช้น้ำมันเชื้อเพลิงที่ดี การขับขี่อย่างประหยัดน้ำมัน และการใช้รถยนต์ที่มีเทคโนโลยีล้ำสมัย สรุป ควันดำจากรถยนต์เป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบอย่างมากต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของมนุษย์ ดังนั้น การลดการปล่อยควันดำจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ทุกคนควรให้ความสนใจ และร่วมมือกันดำเนินการ เพื่อสร้างสังคมที่ยั่งยืนและปลอดภัยต่อไป
โทษปรับหากรถปล่อยมลพิษมากเกินไป
หากเจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบว่า รถยนต์ของคุณมีค่าควันดำเกินกว่าเกณฑ์ใหม่ที่กำหนด จะมีโทษปรับสูงสุด 5,000 บาท และสั่งห้ามใช้รถด้วยการติดสติกเกอร์ข้อความว่า “ห้ามใช้” จนกว่าเจ้าของรถจะดำเนินการแก้ไขสภาพเครื่องยนต์ ไม่ให้มีค่าควันดำเกินกำหนด รวมถึงต้องนำรถไปตรวจสภาพอีกครั้ง ถึงจะสามารถกลับมาใช้งานรถได้ดังเดิม
The post ผลกระทบที่ไม่อาจมองข้าม appeared first on Alicia Kachmar.
January 24, 2024
วิธีรับมือเมื่อเผชิญสถานการณ์ฉุกเฉิน
การขับรถบนทางด่วนเป็นเรื่องสะดวกและรวดเร็ว แต่เมื่อรถของคุณเสียขณะอยู่บนทางด่วน นั่นอาจเป็นสถานการณ์ที่ตึงเครียดและอันตราย หากคุณรู้วิธีรับมือ คุณจะสามารถจัดการกับสถานการณ์นี้ได้อย่างปลอดภัย บทความนี้จะแนะนำวิธีการรับมือกับรถเสียบนทางด่วน เพื่อให้คุณสามารถกลับมาขับรถได้อย่างปลอดภัย
ตั้งสติขับช้าลงอย่างระมัดรังเลี่ยงออกจากทางด่วนเปิดไฟฉุกเฉินติดต่อช่วยเหลือรอความช่วยเหลือในที่ปลอดภัยการรับมือกับรถเสียบนทางด่วนนั้นต้องใช้ความระมัดระวังและปฏิบัติตามขั้นตอนอย่างถูกต้อง เพื่อให้คุณและผู้อื่นปลอดภัย หากคุณปฏิบัติตามแนวทางที่แนะนำ คุณจะสามารถจัดการกับสถานการณ์นี้ได้อย่างมั่นใจ
1.ตั้งสติ
พยายามตั้งสติไม่ควรตื่นตระหนก หงุดหงิด หรือโมโห เพราะอาจส่งผลต่อการตัดสินใจและนำไปสู่ความเสี่ยง
2.ขับช้าลงอย่างระมัดรัง
เมื่อรู้สึกว่ารถกำลังมีปัญหา ให้ลดความเร็วลงอย่างช้าๆ และระมัดระวัง ระวังอย่าให้รถเสียหลักหรือเกิดอุบัติเหตุ
3.เลี่ยงออกจากทางด่วน
หากสามารถเลี่ยงออกจากทางด่วนได้ ให้ขับรถไปจอดในที่ปลอดภัย เช่น ไหล่ทาง หรือบริเวณที่จอดรถ ระวังอย่าจอดในจุดที่เป็นอันตราย
4.เปิดไฟฉุกเฉิน
เมื่อจอดรถแล้ว ให้เปิดไฟฉุกเฉินเพื่อแสดงให้ผู้ขับขี่คนอื่นทราบว่ารถของคุณกำลังมีปัญหา
5.ติดต่อช่วยเหลือ
หลังจากทำทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้รีบติดต่อขอความช่วยเหลือรถเสียหรืออุบัติเหตุอื่น ๆ ทันที ด้วยการเริ่มจากโทรติดต่อเบอร์ของสายตรง 1543 ทางด่วนก่อน เนื่องจากมีบริการรถยกให้จนถึงทางลงบนทางด่วน หลังจากนั้นให้ติดต่อประกันภัยรถยนต์ของคุณ กรณีที่ประกันรถยนต์มีบริการเสริมอย่างบริการรถยก เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินให้เจ้าหน้าที่ทางด่วน ติดต่อประสานงานกับเจ้าหน้าที่บริษัทประกันภัย เพื่อนัดหมายในการรับช่วงต่อ และนำรถเข้าอู่ซ่อมต่อไป
6.รอความช่วยเหลือในที่ปลอดภัย
รอความช่วยเหลือในที่ปลอดภัย อย่าออกจากรถหรือพยายามซ่อมรถด้วยตัวเอง เพราะอาจเกิดอันตรายได้และควรจอดรถในที่ปลอดภัย เช่น ไหล่ทาง หรือบริเวณที่จอดรถ หลีกเลี่ยงการจอดในจุดที่เป็นอันตราย
The post วิธีรับมือเมื่อเผชิญสถานการณ์ฉุกเฉิน appeared first on Alicia Kachmar.
January 21, 2024
เลขเด็ด! กับการทำนายเสี่ยงดวงสุดเพ้อฝัน
เป็นประเด็นที่น่าสนใจในปัจจุบัน ที่นอกจากเรื่องความรักแล้ว ผู้คนก็ให้ความสนใจและจริงจัง คือ ”เลขเด็ด” หรือสลากกินแบ่งรัฐบาลนั่นเอง
เลขเด็ด มักเกี่ยวข้องกับการทำนายเสี่ยงดวง เพ้อฝัน ว่าตัวเลขชุดใดจะออกรางวัล ผู้คนใช้แหล่งข้อมูลหลากหลายเพื่อหาเลขเด็ด เช่น ความฝัน เลขศาสตร์ สถิติ เซียนหวย และอื่นๆ
เลขเด็ด ที่ผู้คนเชื่อกันว่ามีโอกาสออกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาล มักมาจากแหล่งข้อมูลหลากหลาย เช่น
ความฝัน: เลขศาสตร์เป็นศาสตร์ที่เชื่อกันว่าเลขแต่ละตัวมีพลังงานบางอย่างที่หาที่มาที่ไปไม่ได้
เลขมงคล: เลขบางตัวมีความหมายมงคล เช่นเลข 9 หมายถึงความก้าวหน้า เลข 8 หมายถึงความร่ำรวย
เลขศาสตร์: เลขศาสตร์ที่เชื่อกันว่าเลขแต่ละตัวมีพลังงานตามความเชื่อส่วนบุคคล
เซียนหวย: เซียนหวยบางคนมีเลขเด็ดที่แม่นยำอย่างน่าประหลาดใจ
แหล่งข้อมูลเลขเด็ด
เว็บไซต์หวยหนังสือพิมพ์รายการโทรทัศน์เซียนหวยตัวอย่างเลขเด็ด
เลขมงคล: 9, 8, 7, 6, 5, 4, 3, 2, 1, 0
เลขศาสตร์: 13, 26, 39, 52, 65, 78, 91
สถิติ: 01, 02, 03, 04, 05, 06, 07, 08, 09, 10
เซียนหวย: 19, 23, 45, 67, 89
อย่างไรก็ตามไม่มีวิธีใดที่รับประกันว่าเลขเด็ดจะออกรางวัล การพึ่งพาเลขเด็ดเป็นการเสี่ยงดวง เพ้อฝัน และอาจนำไปสู่ปัญหา เช่น
การสูญเสียเงินทอง: การซื้อลอตเตอรี่มีโอกาสเสียเงินมากกว่าได้
การเสพติด: การหมกมุ่นกับเลขเด็ดอาจนำไปสู่การเสพติด
ปัญหาครอบครัว: การทะเลาะวิวาทในครอบครัว การใช้เงินซื้อลอตเตอรี่
ปัญหาสุขภาพ: ความเครียดจากการรอผลรางวัล
ทางเลือกที่ดีกว่า
ออมเงิน: เก็บออมเงินอย่างสม่ำเสมอ แทนที่จะใช้เงินซื้อลอตเตอรี่ลงทุน: ลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำหาความรู้: พัฒนาทักษะและความรู้เพื่อเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จทำบุญ: ช่วยเหลือผู้อื่น สร้างบุญกุศลสุดท้ายนี้ การพนันมีความเสี่ยง โปรดเล่นอย่างมีสติและรับผิดชอบ มองหาทางเลือกที่ดีกว่าเพื่ออนาคตที่มั่นคง
The post เลขเด็ด! กับการทำนายเสี่ยงดวงสุดเพ้อฝัน appeared first on Alicia Kachmar.
January 18, 2024
ศิลปะของการเขียน: การสร้างผลงานที่มีคุณค่าและอิทธิพล

การเขียนเป็นศิลปะที่สูงส่งและมีพลังอันยิ่งใหญ่ เป็นเครื่องมือในการถ่ายทอดความคิด อารมณ์ ความรู้สึก และจินตนาการให้คงอยู่ตลอดกาล ผลงานเขียนที่ดีเยี่ยมสามารถสร้างอิทธิพลอย่างยาวนานต่อความคิดและจิตวิญญาณของมนุษยชาติ แต่การประพันธ์ผลงานที่มีคุณค่าและอิทธิพลเช่นนั้นต้องอาศัยความทุ่มเทและปัจจัยสำคัญหลายประการ
เนื้อหาที่น่าสนใจและมีความลึกซึ้ง ผลงานเขียนที่มีคุณค่าต้องนำเสนอเนื้อหาที่แปลกใหม่ น่าสนใจ และกระตุ้นให้ผู้อ่านคิดตาม อาจเป็นการเล่าเรื่องราวที่ไม่เคยมีใครเล่ามาก่อน การวิเคราะห์ปัญหาสังคมอย่างละเอียดลึกซึ้ง หรือการนำเสนอแนวคิดหรือทฤษฎีใหม่ๆ ที่ท้าทายความเชื่อเดิมของมนุษย์ เนื้อหาที่ลึกซึ้งและสร้างความท้าทายทางปัญญาย่อมทำให้ผลงานมีคุณค่าและอิทธิพลต่อผู้อ่านในระยะยาว
การใช้ภาษาอย่างประณีตและสร้างภาพได้อย่างน่าประทับใจ นอกจากเนื้อหาที่ดีแล้ว ภาษาที่ผู้เขียนใช้ก็มีบทบาทสำคัญในการสร้างผลงานที่มีคุณค่า การเลือกสรรคำและประโยคอย่างรอบคอบจะช่วยให้ผลงานมีรสนิยมและสร้างภาพที่ชัดเจนได้อย่างน่าประทับใจ สื่อสารอารมณ์และบรรยากาศให้แก่ผู้อ่านได้อย่างแท้จริง การใช้โวหารภาษาที่สละสลวยและการเรียงร้อยถ้อยคำอย่างมีศิลปะจึงเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ทำให้ผลงานมีคุณค่ายิ่งขึ้น
การสื่อสารข้อคิดหรือคุณค่าทางจริยธรรม ผลงานเขียนที่ดีไม่เพียงมีเนื้อหาที่ลึกซึ้งและใช้ภาษาอย่างประณีตเท่านั้น แต่ต้องสื่อสารข้อคิดหรือคุณค่าทางจริยธรรมที่เป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านอีกด้วย อาจเป็นการนำเสนอวิธีคิดหรือมุมมองใหม่ในการดำเนินชีวิต การสร้างแรงบันดาลใจให้ตระหนักถึงคุณค่าแท้จริงของการมีชีวิตอยู่ หรือการกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น ผลงานที่สื่อสารข้อคิดหรือคุณค่าเชิงบวกเหล่านี้มักจะมีอิทธิพลต่อจิตใจและความคิดของผู้อ่านในระยะยาว
ความทุ่มเทและตั้งใจจริงของผู้เขียน สุดท้าย การสร้างผลงานที่มีคุณค่าและอิทธิพลเป็นกระบวนการที่ต้องใช้ความพยายามและความตั้งใจจริงของผู้เขียน ผู้เขียนต้องอุทิศเวลาอย่างมากมายในการศึกษาค้นคว้าหาข้อมูล การคิดไตร่ตรองอย่างลึกซึ้ง การเรียบเรียงและปรับปรุงผลงานอยู่เสมอจนกว่าจะได้ผลงานที่สมบูรณ์แบบ การตั้งใจทุ่มเทเช่นนี้จะทำให้ได้ผลงานที่มีคุณค่าอย่างแท้จริง และสามารถครองใจผู้อ่านในระยะยาวได้
สรุปการเขียนผลงานที่มีคุณค่าและอิทธิพลต้องประกอบด้วยเนื้อหาที่น่าสนใจและลึกซึ้ง การใช้ภาษาอย่างประณีตงดงามเพื่อสร้างภาพได้อย่างน่าประทับใจ การสื่อสารข้อคิดหรือคุณค่าทางจริยธรรมที่เป็นประโยชน์ต่อผู้อ่าน และความทุ่มเทอย่างจริงจังของผู้เขียน เมื่อผสมผสานองค์ประกอบเหล่านี้ได้อย่างกลมกลืน ผลงานนั้นจะค้างคงอยู่ในจิตวิญญาณของมนุษย์ชาติและมีอิทธิพลต่อสังคมในระยะยาวอย่างไม่มีวันสิ้นสุด เป็นผลงานศิลปะที่ยิ่งใหญ่ที่มนุษย์สร้าง
The post ศิลปะของการเขียน: การสร้างผลงานที่มีคุณค่าและอิทธิพล appeared first on Alicia Kachmar.
September 13, 2014
A broken but happy portrait
“She laughed. ‘It won’t last. Nothing lasts. But I’m happy now.’
‘Happy,’ I muttered, trying to pin the word down. But it is one of those words, like Love, that I have never quite understood. Most people who deal in words don’t have much faith in them and I am no exception–especially the big ones like Happy and Love and Honest and Strong. They are too elusive and far too relative when you compare them to sharp, mean little words like Punk and Cheap and Phony. I feel at home with these, because they’re scrawny and easy to pin, but the big ones are tough and it takes either a priest or a fool to use them with any confidence.”
― Hunter S. Thompson, The Rum Diary
The last time I wrote here, in March, I had just been accepted to all my nursing programs, but had decided on Penn for the combination BSN-Hillman PhD program. I had recently been in the hospital, which always makes me very fatalistically rethink everything and want to crawl into a little ball in the corner of a room forever. I babysat my “little one” in Pittsburgh, unhealthily worked on Doll Despair (haha), took a psychology course, traveled to Indiana to meet and see my British sickypoo email friend get married, and tried to imagine what life would be like in Philadelphia.
I traveled to DC for IBD Day on the Hill, for the first time, to meet other CCFA members and speak to Senators and Reps about Crohn’s/Colitis research/funding/Congressional caucus. I met some incredible people, including a retired Philadelphia nurse with a sick college-aged son. She told me I was a “ray of light sent straight from God” and that I was a “stoic and strong role model.” (ha)
I went to Baltimore for the Graphic Medicine conference at Hopkins to meet my author/professor/life idol Arthur Frank, whose amazing books have probably taken up half my posts here for the last 4 years. I wrote to him last summer (2013) for the first time, with a long “thank you” note because it just felt right to do so; my hospital nurses and him had the most to do with my decision to go back to school for nursing/Hillman PhD. We became email buddies after that, so I was excited/nervous to meet him in person, at a conference at which he was a Keynote speaker. After the conference, we had a several hour breakfast and he agreed to be my “third PhD mentor” from afar. It would take me an entire blog post to properly describe this weekend. I will forever treasure and be motivated by the messages he wrote in my books that you can see below.
I spent about two weeks babysitting in NYC, with one day off that I filled with much needed solitary time in Coney Island, Brighton Beach, and Manhattan Beach. For Memorial Day weekend I stayed in Long Island, with the girls (now 20-somethings!) I “nannied” in Brooklyn and Manhattan so long ago.
I sat in their backyard, reading Norwegian Wood and then one of the lesser known Tennessee Williams play, thinking again about an art project of sorts that I think about a lot but can never actually begin–I don’t even have a medium in mind! It’s my broken person/pieces I alluded to in this last post, from a really brutal hospitalization where I felt my spirit (and body) breaking into a million pieces. Someone once asked me, “How did all of it not break you?” And I laughed: “It DID break me! Oh my God, trust me, it broke me. Over and over and over again.” Into so many pieces that I naively thought could be put back together like a jigsaw puzzle. But they’re altered, shattered, too different, or can’t be found.
I don’t know what this would look like because I can’t conceptualize it beyond a human figure carrying a lot of pieces/memories/experiences that will “fit” together in some way to make something else. I think of the part in Arthur Frank’s The Wounded Storyteller: is it possible to be successfully ill? What about successfully broken? (Is it the same thing?) It’s beyond the point of trying to heal those open wounds and stop the proverbial bleeding; I’m dealing with scar tissue that is never going to go away. And that scar tissue, from my surgeries? It’s what’s persistently contribution to ongoing inflammation (pouchitis) and my “occult” blood loss. Which is fitting.
I see that human figure, me, trying to hold and balance all those pieces in some strange Rube Goldberg contortionist configuration. A Calder mobile full of seemingly patternless movements but there’s still something meaningful and beautiful there. A startling tap on my shoulder and I would drop all those pieces.
Which reminds me of another analogy: I hate that trite aphorism, “what doesn’t kill you only makes you stronger,” because I feel the opposite in terms of my health. It’s so much weaker for everything that didn’t kill me! I imagine a common object like a glass precariously sitting on the edge of a cliff. A small tap or a large shove results in the same outcome: it falls over the cliff and shatters. I sometimes think that if I broke a finger and had to go the hospital I would totally lose my mind in a “last straw just can’t handle anymore” kind of way. There’s a threshold but you can’t know where it is exactly until you cross it.
Related to that aphorism but in a pathophysiology way because science and nursing are my entire life right now: heart failure can occur after many years of increased workload. The heart muscle actually gets bigger and technically “stronger” if you just consider sheer muscle mass, squeezing out the proper amount of space once taken up by the chambers. More of this muscle tissue and pumping are needed for survival. The heart is working so hard! Too hard. But it “works” for a while. Until it completely wears out. All those extra muscle cells, that you would think =STRENGTH, don’t matter. And the heart just stops. So, sometimes what makes you stronger just ends up killing you nonetheless, and somewhat suddenly at that.
This program is one of the most challenging endeavors I’ve ever undertaken and I thought about quitting 3X/week this summer just b/c of exhaustion and reaching a saturation point for knowledge. It’s hard to explain what it’s like to learn about so many of the illness-related things I’ve been through, in a classroom setting, where the instructor is always talking about “the patient” as some anthropological “other,” but I am that patient and “other.” There were many lecture slides I didn’t have to study at all–lists of drug side effects, symptoms, GI/anemia/pharmacology lingo–because it’s either burned into my memory from “living it” too many times or I’m still living it now.
While I had tears behind my eyes during the colitis/Crohn’s lecture, I didn’t cry; but I totally cried my eyes out when I read this in one of my textbooks: “GI disorders may have profound effects on the psychosocial functioning of the affected individual. The stress of coping with a chronic, disabling illness may result in psychological trauma; in addition, any type of illness represents a threat to the integrity of the person. Individuals experiencing a chronic GI disorder may exhibit the psychological effects of such threats.”
“In life man commits himself and draws his own portrait, outside of which there is nothing. No doubt this thought may seem harsh to someone who has not made a success of his life. But on the other hand, it helps people to understand that reality alone counts, and that dreams, expectations and hopes only serve to define a man as a broken dream, aborted hopes, and futile expectations.”
– Jean-Paul Sartre