Donakrap Dokrappom189 reviews31 followersFollowFollowJanuary 11, 2020หลังจากใช้ชีวิตที่ไม่มีเป้าหมายที่ชัดเจนผมก็ได้มาพบกับหนังสือเล่มนี้ หนังสือได้นำเสนอวิธีการจัดลำดับความคิดผ่านเครื่องมือต่าง ๆ ที่จะช่วยให้การจัดระเบียบความคิดดีขึ้น โดยอิงจากประสบการณ์ตรงของผู้เขียนเอง การไดอ่านหนังสือเล่มนี้ทำให้ผมกลับมาคิดทบทวนว่าที่ผ่านมาผมไม่เคยที่จะจัดระเบียบมันเลย สะเปะสะปะมั่วกันไปหมด อย่างเช่นในการทำงาน เมื่อได้รับโปรเจคมา บางที่เราไม่รู้จะเริ่มยังไงการทำงานไม่มีรูปแบบและเป้าหมายที่ชัดเจน หนังสือเล่มนี้ตอบโจทย์พวกโลเลอย่างผมมาก ๆ ตัวอย่างเช่นจะวิธีแนะนำว่าเราควรจัดการกับไอเดียต่าง ๆ ที่มีในหัวแต่ไม่รู้จะเอามาใช้อย่างไร หรือการวางแผนการทำงาน การอ่าน การพูด รวมไปถึงกาเขียน diary ยอมรับว่าเคยอ่านหนังสือพัฒนาตัวเองมาพอควรแต่ก็ไม่เคยลองมาทำจริง ๆ ซักที แต่สิ่งที่ดีงามของหนังสือเล่มนี้ที่ผมรู้สึกว่าคุ่มค่าที่สุดคือ มันทำให้ผมได้เริ่มทำอะไรบางอย่างที่ผมไม่เคยคิดที่จะทำมันมาก่อน (ไม่รู้ว่าจะทำได้นานแค่ใหน แต่ยังไงก็จามผมจะพยายามทำให้เป็นนิสัย) เป็นหนังสือที่มีอิมแพคต่อผมที่เป็นรูปธรรมเล่มแรก ๆ เลยมั่งเนี่ย ผมรู้สึกภูมิใจในตัวเองอย่างบอกไม่ถูกนะ ขอบคุณครับ จบง่าย ๆ อย่างงี้เลย
Nun62 reviews2 followersFollowFollowJuly 31, 2019เป็นหนังสือ How to ว่าด้วยเรื่องการจัดการความคิดของตัวเอง โดยใช้ Tools ในหนังสือมีให้เลือกกว่า 13 แบบ ตามแต่ที่จะตรงกับบุคคล เราอยากสรุปในส่วนที่เราคิดว่าจะสามารถนำไปใช้งานในชีวิตเราได้ คือ 1) การพูดต่อหน้าสาธารณะชน ขั้นตอน 1. วิเคราะห์เป้าหมาย/จุดประสงค์ : วางแผนว่าจะพูดให้ใครฟังและพูดทำไม 2. เลือก Topic : กำหนดหัวข้อว่าอยากจะพูดอะไร 3. จดรายการคำถาม : เรียงโครงเรื่อง 4. เขียนเนื้อหา : เพิ่มความสมบูรณ์ของเนื้อหาด้วยตัวอย่าง*การจัดระเบียบความคิดได้ก็จะได้ทักษะการพูดเป้นของแถม2) Tools 1. Diary - ขนาด A5 / Evernote ระบุ วันที่, สถานที่, หัวข้อ 2. กราฟชีวิต - ขั้นตอนการทำ 2.1 กำหนดช่วงเวลาในกราฟ (รายวัน,รายสัปดาห์, รายเดือน, รายปี) 2.2 ใส่ Keyword ใส่จุดในกราฟ 2.3 เชื่อมแต่ละจุดเป็นเส้น 2.4 วิเคราะห์ความสุข โดยให้คะแนน +10 ถึง -10 3. Bucket list - อันนี้เราว่าคล้ายๆกับทำ OKR 3) หลักชินออนซอพัน (สร้างวินัยให้ตนเอง) เช่น - กาย : exercise - วาจา : อ่านหนังสือ - อักษร : คัดจีน 1,800 ตัว - วินิจฉัย : Diary 4) การอ่าน เราต้องพิจารณา - เหตุจูงใจในการอ่าน - ข้อมูลเกี่ยวกับหนังสือ - เนื้อหา - ส่วนที่ประทับใจ - ความคิด/สรุปหลังอ่าน*ในข้อนี้เราเอาปรับใช้ในการเขียนบันทึกในนี้เหมือนกัน 5) กฎเลข 3 - เลข 3 = สมบูรณ์ สุภาษิตว่าไว้ถ้าครบสามถือว่าสมบูรณ์ ทำไมเป็นอย่างนั้นลองไปอ่านดูในหนังสือกันนะ
Mimmy Limsongtham10 reviewsFollowFollowSeptember 24, 2019หนังสือพัฒนาตัวเองที่อ่านแล้วรู้สึกสามารถนำไปปรับใช้ได้จริง และคิดว่าน่าจะเห็นผลดีด้วย หลายๆอย่างในหนังสือจุดประกายให้เราอยากเขียนมากขึ้น อยากเอาความคิดของเราให้ออกมาเป็นเรื่องเล่าที่มีระบบกว่านี้ โดยรวมแล้วหนังสือจุดประกายการอยากเริ่มต้น อยากทำ อยากทดลอง อยากรู้ผลลัพธ์ที่จะตามมาหากทำตามหนังสือ ขอปักหมุดเป็นหนังสือพัฒนาตัวเองที่ชอบที่สุด ณ ขณะนี้
Minn33 reviews4 followersFollowFollowOctober 6, 2019เป็นหนังสือ how to เกี่ยวกับการจัดระเบียบความคิด โดยมีวิธีการ 13วิธีด้วยกัน ซึ่งแต่ละวิธีจะมีความเหมาะสมในการใช้ที่ต่างกัน อย่างเช่น mandala art โดยแบบตารางเป็น 9ช่อง แล้ว topic หลักที่ต้องการอยู่ตรงกลาง เหตุผลโดนจัดความสำคัญตามช่องต่างๆ และยังมีตารางแตกออกไป อีก 9อัน ถ้าเราเลือกหัวข้อใดหัวข้อหนึ่ง ก็สามารถแยกเหตุผลหรือวิธีการออกไปได้อีก เหมาะสำหรับคนที่ไม่มีไอเดียอะไรเลย ส่วนที่ชอบที่สุด คือ การเขียนไดอะรี่ ซึ่งคือการเก็บความทรงจำเราทั้งในอดีตและปัจจุบัน ซึ่งจะส่งผลไปถึงอนาคตด้วย โดยผู้เขียน มีความประทับใจเรื่องการเป็นครูตั้งแต่เด็ก การเขียนไดอะรี่ประจำของเค้า ทำให้การรับรู้ว่าเค้าอยากเป็นครู เรียกได้ว่าเป็นการตั้งเป้าหมายอนาคต ซึ่งการเขียนไดอะรี่เป็นการมุ่งมั่นให้เราไปสู่จุดหมายหรือเป้าหมายที่ตั้งเอาไว้
Duen Tiwatsakorn1 reviewFollowFollowDecember 15, 2019เป็นหนังสือที่อ่านง่าย แต่สามารถนำไปใช้ได้จริง ส่วนตัวอ่านแล้วชอบ ทำให้เห็นว่าการจัดการความคิดให้เป็นระเบียบนั้นมันสามารถนำไปสู่เรื่องดีๆได้อีกหลายเรื่องอย่างเป็นไปตามธรรมชาติ
Nattawat Supachawarote37 reviews2 followersFollowFollowDecember 11, 2019เรื่องย่อ+ความเห็น:บทที่ 1 พูดถึงความสำคัญของการจัดระเบียบความคิดต่อการใช้ชิวิต ลักษณะของผู้ที่มีทักษะการจัดระเบียบความคิด และแนะนำเกม tower of Hanoi ที่จะช่วยให้เราฝึกพัฒนาทักษะการจัดระเบียบความคิดได้ บทนี้เกริ่นนำซะส่วนใหญ่บทที่ 2 กล่าวถึงเหตุผลที่เราไม่สามารถจัดระเบียบความคิดได้ ซึ่งสิ่งสำคัญในการจัดะเบียบความคิดคือการคิดให้เป็นรูปธรรม และนำเครื่องมือเข้ามาช่วย และยังพูดถึงหลักการจัดระเบียบความคิด โดยการ categorize task ต่างๆ โดยใช้ เวลา สถานที่ ประเภทงาน และ ความสำคัญในการจัดลำดับ บทนี้ช่วยทำให้เรารู้วิธีการจัดการการใช้ชิวิตได้อย่างมีระบบมากขึ้นบทที่ 3 พูดถึงเครื่องมือที่ใช้ในการจัดระเบียบความคิดได้แก่ Mandala Art, Mind Map, Digital Mind Map and Logic Tree 3บทที่ 4 กล่าวถึงการสร้างไอเดีย โดยกล่าวถึงความแตกต่างระหว่างแผนงาน และแผนการ และหลักการวางแผนงานผ่านการ ฺBrainstorming, Brain writing, Question Map กระบวนการการใช้เครื่องมือแต่ละประเภท รูปแบบและวิธีการตั้งคำถามเพื่อให้ได้ไอเดียใหม่ๆ และการเขียนสรุปแผนงานให้อยู่ในหน้าเดียว บทนี้ดี ทำให้เปิดโลกทัศน์เกี่ยวกับวิธีการตั้งคำถามต่อเรื่องใดเรื่องหนึ่งทำให้หลุดออกจากกรอบความคิดเดิมๆ ของเราบทที่ 5 บอกถึงเทคนิคกการอ่านหนังสือให้จำได้ โดยแบ่งเป็น 3 ส่วนคือการอ่านก่อนการอ่าน การอ่านระหว่างการอ่าน และการอ่านหลังการอ่าน โดยการอ่านก่อนการอ่านคือการอนุมานโดยคร่าวๆ ว่าเราจะได้อะไรจากหนังสือเล่มนี้จากชื่อหนังสือ คนแต่ง บทนำ ส่วนการอ่านระหว่างการอ่านคือการ วิธีการอ่านให้ได้ประสิทธิภาพ โดยการอ่านทำความเข้าใจสารบัญระดับหนึ่ง และการจับประเด็นสำคัญของเนื้อหาแต่ละช่วงจากหัวข้อ และวิธีการบันทึกเพื่อการจดจำที่ดีขึ้น ส่วนการอ่านหลังการอ่านคือวิธีการสรุปเนื้อหาที่อ่าน ซึ่งการนำไปใช้จริงน่าจะใช้ได้ประมาณ 80% เพราะเอาเข้าจริงหนังสือหลายเล่มอ่านหัวข้อก็ยังไม่รู้ว่าต้องการจะสื้่ออะไรจนกว่าจะอ่านเนื้อหาไปบางส่วนบทที่ 6 กล่าวถึงเทคนิคการพูดในที่สาธารณะ เริ่มต้นต้องรู้ว่าเราจะต้องการจะสื่ออะไร ให้ใคร เพราะอะไร และเทคนิคในการสร้างเนื้อหา ถึงแม้ว่ากว่า 70% การสื่อสารจะมาจากน้ำเสียงและท่าทาง ไม่ใช่เนื้อหา แต่อย่างไรก็ตาม แก่นหลักในการพูดในที่สาธารณะคือความเข้าใจในเนื้อหาที่เราจะพูด นั่นก็คือการจัดระเบียบความคิดของเนื้อหาที่เราต้องการจะพูดนั่นเอง ซึ่งถ้ามีสิ่งนี้ non-verbal language ถึงจำทำได้ดีตามมาบทที่ 7 พูดถึงเครื่องมือที่จะนำมาใช้ทบทวน และวางแผนการใช้ชิวิตอันได้แก่ การเขียนไดอารี่ กราฟชีวิต และ bucket list บทนี้เหมาะสำหรับคนที่ต้องการวิธีการในการทบทวนตัวเอง และยังงงว่าเขียนไดอารียังไงดี กราฟชีวิตในบทนี้เป็นของที่ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อนและมีความน่าสนใจอยู่ไม่น้อย ส่วน bucket list ในเล่มนี้ไม่ได้บอกขอบเขตการเขียน บางครั้งอ่านตัวอย่างให้ความรู้สึกเหมือนการตั้งเป้าหมายมากกว่า ซึ่งเครื่องมือในการตั้งเป้าหมายอาจใช้อย่างอื่นได้โดยรวมก็เป็นหนังสือที่อ่านได้เรื่อยๆ เครื่องมือในการใช้จัดระเบียบความคิดในแต่ละตอนอาจจะตรงจริตกับใครบางคน แต่อาจจะไม่เหมาะสมกับคนอีกหลายคน แนะนำว่าอ่านแล้วควรลองใช้จริงจะได้รู้ แต่อย่างน้อยอ่านแล้วก็จะได้หลักคิดบางอย่างที่นำมาปรับใช้ในการดำเนินชีวิตได้อยู่self-help
Jay Chatree28 reviews3 followersFollowFollowSeptember 30, 2019 ทำไมเราควรต้องจัดระเบียบทางความคิด การจัดระเบียบความคิดช่วยให้เราทำงาน หรือจัดการชีวิตได้อย่างมีระบบ ระเบียบมากยิ่งขึ้น ทั้งยังมีส่วนช่วยส่งเสริมได้อีกหลายอย่าง เช่น การอ่าน การเรียน การพูด หลายคนอาจคิดว่าการจัดระเบียบเป็นเรื่องที่ยาก เพราะไม่เคยทำมาก่อน แต่หนังสือเล่มนี้ก็มีการแนะนำเครื่องมือ ต่างๆ ที่ช่วยให้เราจัดระเบียบได้ง่ายขึ้น เช่น Mandara art, Mind map, Logic trees. ซึ่งทั้งสามตัวเป็นการคิดถึงหัวข้อหลัก และแตกขแนงเป็นข้อย่อยเพื่อให้เข้าใจได้ครอบคลุม ไม่ตกหล่นในประเด็น การแก้ปัญหาต่างๆ รู้จักวิเคราะห์ วางแผน ลงมือทำ และเช็คผลปรับปรุง โดยใช้เครื่องมือข้างต้น โดยแนะนำเพิ่มเติม คือ Question map คือการตั้งคำถามอย่างไรให้ได้ผล ตรงตามคำตอบที่เราอยากจะได้ สุดท้ายใช้การจัดระเบียบในการพัฒนาคุณภาพชีวิต โดยการเริ่มเขียน ไดอารี่ การทำกราฟชีวิต และ Bucket list เพื่อให้เรามีแนวทางในการดำเนินชีวิตที่ชัดเจน เหมือนการเดินทางโดยมี GPS ก็ต้องถือว่าเป็นหนังสือที่ดีที่ช่วยให้เราพัฒนาตัวเองได้ ถ้าลองได้เริ่มทำตามง่ายๆ เชื่อว่าทุกคนคงจะดีขึ้นไม่มากก็น้อย ค่อยเป็นค่อยไป วันละนิดทำทุกวัน อ่านจบง่ายๆ ยังมีรายละเอียดและตัวอย่างอีกเยอะ ไปหาอ่านได้ใน ทุกอย่างในชีวิต เริ่มจากความคิดที่เป็นระเบียบ
Karn Moonsri84 reviewsFollowFollowJanuary 11, 2020เป็นหนังสือที่แนะนำเทคนิคและอุปกรณ์ที่ช่วยในการจัดระเบียบความคิด ที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้จริงและยกตัวอย่างง่าย สามารถนำไปใช้ได้เลย ซึ่งพออ่านเสร็จตัวผมได้มีอะไรๆ หลายอย่างที่ได้นำมาทดสอบกับได้เองได้ และสนุกระดับนึ่งเลยทีเดียว
Chaipat Choo93 reviews4 followersFollowFollowOctober 6, 2019ชอบบทที่สอนให้ใช้คำไม่มีคำมาพลิกแพลงเพื่อมาสร้างเป็นเทคนิคในการตั้งคำถามได้หลายๆคำถาม
Jirawat Ton28 reviewsFollowFollowOctober 14, 2019เล่มนี้ดีมาก มีหลายโมเดลให้เอามาลองปรับใช้กับตัวเองได้
Littlemertle1 reviewFollowFollowApril 11, 2022หนังสือเล่มนี้ช่วยจัดระบบความคิดได้จริง มีแนวทางให้ปฏิบัติเพียบ ลองอ่านหนังสือเล่มนี้แล้วเหมือนปลดล็อคความยุ่งเหยิงในสมอง ได้นำเทคนิคมาใช้ในการสอนนักเรียนเพื่อระดมความคิดได้ด้วย
Krisada Visoodsak90 reviewsFollowFollowOctober 22, 2022เป็นเล่มที่กลับมาอ่าน จากครั้งแรกอ่านไม่จบ อ่านรอบสองอ่านแล้วคิดตาม ขอบคุณผู้เขียนและสำนักพิมพ์ที่มีหนังสือดีดี ให้อ่านมากกว่าหัวเรื่องที่เขียนไว้
Pongsatit Isarankura Na Ayuthaya36 reviews1 followerFollowFollowOctober 11, 2019อ่านเล่มนี้จบ บอกเลยว่าชอบแนวคิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเครื่องมือทั้ง 13 แต่เอาเข้าจริงๆ สามารถใช้ได้แค่ไม่กี่อย่าง เป็นเล่มแปล ที่อ่านสนุก อ่านลื่น และ อ่านง่าย มีการยกตัวอย่างวิธีการใช้เครื่องมือแต่ล่ะอย่างเข้ามาอยู่ด้วยกันส่วนการนำไปใช้อาจจะต้องหาหนังสือมาอ่านเพิ่มนิดนึง อย่างเช่น"เทคนิคสรุปทุกอย่างลงในกระดาษแผ่นเดียว ที่ฉันเรียนรู้มาจากโตโยต้า" ก็มีการใช้เครื่องมือบางมือที่อยู่ในเล่มนี้ หรือแม้กระทั้งนำไปใช้ในวิชา Project management เล่มนี้ก็เป็นพื้นที่ดีเหมือนกัน เพราะว่าวิชา PM ใช้เครื่องเหล่านี้แบบเน้นๆ
So Won62 reviews2 followersFollowFollowDecember 11, 2021T_T 내가 이 책을 왜 샀을까.. 라고 생각되는 책책 구매 대해서 보통 후회하지 않는데.. 이 책은 비싸게 주고 산 책이었고 너무나도 당연한 생각들이 적혀있는 책인듯해서 너무 아까웠음..생각을 잘 정리하여 말하는 능력을 키우고 싶어서 큰 기대를 안고 산 책이어서 더욱더 실망한듯..역시 추천되는 책은 호불호가 갈린다는..