What do you think?
Rate this book
โลกเปลี่ยน โรงเรียนต้องเปลี่ยน
"โลกเปลี่ยน โรงเรียนต้องเปลี่ยน" 84 หน้า เป็นหนังสือรวมจดหมายที่เนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล อดีตนักเรียนโรงเรียนอันเขารัก แม้จะเป็นที่เกลียดชังก็ตามที ได้ส่งจดหมายประเด๋็นการพัฒนาโรงเรียนและระบบการศึกษาให้แก่คณะกรรมการสถานศึกษาของโรงเรียนเขารับทราบ โดยเริ่มเขียนตั้งแต่ธันวาคมปีก่อน และมาเสร็จสิ้นลงในเดือนมิถุนายนในปีนี้ ทั้งสิ้น 11 ฉบับ ระยะเวลา 7 เดือน นอกจากนี้ยังรวมถ้อยแถลงที่ไปกล่าวที่รัฐสภาว่าด้วยวัฒนธรรมการเมืองที่ส่งเสริมประชาธิปไตยด้วย
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ อรรถพล อนันตวรสกุล อาจารย์ คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้กล่าวถึงหนังสือเล่มนี้ในคำนิยมว่า
"เมื่อแรกได้รับคำชวนจาก เนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล ให้ร่วมเขียนคำนิยมสำหรับหนังสือ “โลกเปลี่ยน โรงเรียนต้องเปลี่ยน” ผมออกจะแปลกใจอยู่ไม่น้อย เนื่องจากทราบว่าจะเป็นการรวมเล่มจดหมายที่เขาเขียนถึงผู้ใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับโรงเรียนเก่าที่เขาสำเร็จการศึกษามา ซึ่งน่าจะมีประเด็นที่สมบูรณ์ในตัวจนไม่น่าจะต้องการข้อความของใครมาขยายความใด ๆ อีก แต่เมื่อได้รับไฟล์หนังสือที่เขาส่งมาให้อ่านได้ ความรู้สึกก็เปลี่ยนไป จากแปลกใจเป็นฉงนสนเท่ห์ ในแง่มุมความคิดที่ปรากฎเป็นแก่นแกนความคิดของจดหมายแต่ละฉบับที่เขียนโดยคนรุ่นใหม่ที่มีต่องานการศึกษา"
... " เนติวิทย์ ไม่ได้ทำแค่การวิพากษ์ หรือประท้วง ตามภาพจำที่คนส่วนใหญ่มักจะแขวนป้ายตีตราเขา แต่เขายังพยายามมองหาทางออกและศึกษาหาความเป็นไปได้ที่จะเสนอแนะแนวทางด้วยสายตาของคนรุ่นใหม่คนหนึ่งที่เอาธุระกับงานการศึกษาของบ้านเมือง"
อนึ่งหนังสือเล่มนี้ที่ตีพิมพ์ขึ้นมีวัตถุประสงค์หลักคือเป็นหนังสือเพื่อแสดงมุทิตาจิตต่อโอกาสที่รองศาสตราจารย์ ดร.บัญชา ชลาภิรมย์
และครูนิตยา รัฐสมุทร
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ อรรถพล อนันตวรสกุล อาจารย์ คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้กล่าวถึงหนังสือเล่มนี้ในคำนิยมว่า
"เมื่อแรกได้รับคำชวนจาก เนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล ให้ร่วมเขียนคำนิยมสำหรับหนังสือ “โลกเปลี่ยน โรงเรียนต้องเปลี่ยน” ผมออกจะแปลกใจอยู่ไม่น้อย เนื่องจากทราบว่าจะเป็นการรวมเล่มจดหมายที่เขาเขียนถึงผู้ใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับโรงเรียนเก่าที่เขาสำเร็จการศึกษามา ซึ่งน่าจะมีประเด็นที่สมบูรณ์ในตัวจนไม่น่าจะต้องการข้อความของใครมาขยายความใด ๆ อีก แต่เมื่อได้รับไฟล์หนังสือที่เขาส่งมาให้อ่านได้ ความรู้สึกก็เปลี่ยนไป จากแปลกใจเป็นฉงนสนเท่ห์ ในแง่มุมความคิดที่ปรากฎเป็นแก่นแกนความคิดของจดหมายแต่ละฉบับที่เขียนโดยคนรุ่นใหม่ที่มีต่องานการศึกษา"
... " เนติวิทย์ ไม่ได้ทำแค่การวิพากษ์ หรือประท้วง ตามภาพจำที่คนส่วนใหญ่มักจะแขวนป้ายตีตราเขา แต่เขายังพยายามมองหาทางออกและศึกษาหาความเป็นไปได้ที่จะเสนอแนะแนวทางด้วยสายตาของคนรุ่นใหม่คนหนึ่งที่เอาธุระกับงานการศึกษาของบ้านเมือง"
อนึ่งหนังสือเล่มนี้ที่ตีพิมพ์ขึ้นมีวัตถุประสงค์หลักคือเป็นหนังสือเพื่อแสดงมุทิตาจิตต่อโอกาสที่รองศาสตราจารย์ ดร.บัญชา ชลาภิรมย์
และครูนิตยา รัฐสมุทร
84 pages, Paperback
Published January 1, 2019
1 person is currently reading
37 people want to read
About the author
เนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล
37 books250 followersนิสิตคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
มีความสนใจที่จะอ่านและเขียน
มีความสนใจที่จะอ่านและเขียน
Ratings & Reviews
Friends & Following
Create a free account to discover what your friends think of this book!
Community Reviews
Displaying 1 - 4 of 4 reviews
May 16, 2020
เป็นหนังสือรวบรวมจดหมายที่ผู้เขียนเขียนถึงประธานคณะกรรมการสถานศึกษาที่ผู้เขียนเคยศึกษามา ด้วยประสงค์จะช่วยหาทางออกให้กับปัญหาการศึกษาไทยโดยเริ่มจากหน่วยย่อยที่สุดอย่าง “โรงเรียน”
——
จดหมายที่รวบรวมมาในหนังสือก็พูดถึงปัญหาการศึกษาไทยที่เรารู้ ๆ กันมานาน เช่น การเรียนพิเศษ โครงการบันทึกการอ่าน ห้องโปรแกรมพิเศษ ฯลฯ
ถึงแม้ว่าจะพูดถึงโรงเรียนที่ผู้เขียนเคยศึกษาแต่ก็พบว่าโรงเรียนที่เราเคยศึกษาก็มีปัญหาทำนองเดียวกัน และคิดว่าทุก ๆ คนก็น่าจะได้มีประสบการณ์เจอปัญหาที่กล่าวถึงในหนังสือนี้แน่ ๆ
ในจดหมายก็เสนอให้คำนึงถึงปัญหาประเด็นต่าง ๆ พร้อมหลักฐาน/แหล่งอ้างอิง เหตุผลสนับสนุนข้อเสนอ ทั้งยังมีคำแนะนำแนวทางทางแก้ปัญหา/การทบทวนการดำเนินการต่าง ๆ
ท้ายบทก็มีสาระน่ารู้สั้น ๆ เกี่ยวกับประเด็ดในจดหมายฉบับนั้น ๆ เพิ่มเติมด้วย
——-
ต้องขอชื่นชมทักษะทางภาษาของผู้เขียนจริง ๆ เขียนจดหมายสละสลวยและสื่อสารได้ชัดเจน
เล่มนี้เป็นเล่มที่ 2 ของผู้เขียนที่เราได้อ่าน แล้วก็พบสไตล์บางอย่างของผู้เขียน คือมักจะชวนคิดด้วยคำถาม เอาข้อมูลและเหตุผลมาแจงให้ฟัง หรือเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนำไปสู่คำถามว่าที่เป็นอยู่นั้นเหมาะสมแล้วหรือ ดีแล้วหรือ
พออ่านแล้วมันทำให้ต้องคิดอัตโนมัติ ไม่ว่าจะเหตุคล้อยตามเหตุผลที่ผู้เขียนเสนอมาหรือไม่ก็ตาม แต่ได้คิดจริง ๆ
________
ขอติที่การเย็บเล่มสักหน่อย เย็บแล้วเกิดช่องดึงรั้งกัน ทำให้เวลาเปิดไม่ลื่นมือและหน้ากระดาษหลังพลิกไม่เรียบตามสันแต่โค้งเป็นคลื่น ขัดใจเล็กน้อยเวลาอ่าน
________
อ่านจบเราก็ได้แต่สะท้อนตัวเองนะ
สมัยเรียนเรามีคำถาม เราอยากให้อะไรหลาย ๆ อย่างเปลี่ยนแปลง เราไม่เห็นด้วยกับการจัดการบางอย่าง
แต่เราก็ทำแค่บ่นกับเพื่อน
ทั้ง ๆ ที่เราน่าจะทำอะไรได้มากกว่านั้น
เราก็มีสิทธิ์ที่จะทวงถาม ให้คำแนะนำ เสนอแนวทางที่เราอยากได้นี่ ทำได้ตั้งแต่สมัยเรียน แต่เราก็มีข้ออ้างให้ตัวเองเยอะแยะและไม่ได้ทำมัน
March 15, 2018
ผู้เขียนมีวาจาคมคายเกินคนส่วนใหญ่ที่อายุไล่เลี่ยกัน มีมุมมองด้านการศึกษา การเลี้ยงดูบุตรหลาน หน้าที่ของสถานศึกษาและผู้สอนเชิงลึก สามารถถ่ายทอดสิ่งที่อยู่ในใจของนักเรียนไทยส่วนน้อยที่มองเห็นปัญหาแต่ไม่มีปากเสียง หรือมองเห็นปัญหาแต่ไม่รู้จะแก้ปัญหาอย่างไร ผู้เขียนมีทักษะภาษาดี สามารถแสดงความเห็น แนะนำ ตักเตือน ยกตัวอย่าง หรือชี้แจงเรื่องต่างๆ ได้โดยไม่ต้องใช้คำหยาบคายหรือภาษาปาก สามารถเขียนภาษาทางการให้อ่านรู้เรื่องได้
October 29, 2017
ต้องอ่าน “นักเรียนเลวในระบบการศึกษาแสนดี” มาก่อนถึงจะอิงกับการอ่านของเล่มนี้
February 11, 2018
เป็นการรวมจดหมายการพัฒนารร.และระบบการศึกษาที่พี่แฟรงค์เขียนให้รร.สมัยมัธยม11ฉบับ ผนวกกับสาระวิเคราะห์ระบบการศึกษาไทย
จดหมายทั้งสิ้นนั้น ได้บอกเล่าประสบการณ์ แนวคิด แนวทางแก้ไขต่างๆมากมายที่ไม่ได้แก้เฉพาะรร.สมัยมัธยมของพี่แฟรงค์เท่านั้น แต่สามารถนำไปปรับใช้ได้ในทุกๆรร.เลยก็ว่าได้ นับเป็นหนังสือเล่มหนึ่งที่มีประโยชน์และให้ข้อคิดกับนักเรียนและคนทุกคน อ่านแล้วสร้างความตระหนักและนึกคิดได้มากขึ้น การเขียนจดหมายละเอียดและวิชาการมาก แต่เข้าใจง่าย อ่านสนุกครับ
จดหมายทั้งสิ้นนั้น ได้บอกเล่าประสบการณ์ แนวคิด แนวทางแก้ไขต่างๆมากมายที่ไม่ได้แก้เฉพาะรร.สมัยมัธยมของพี่แฟรงค์เท่านั้น แต่สามารถนำไปปรับใช้ได้ในทุกๆรร.เลยก็ว่าได้ นับเป็นหนังสือเล่มหนึ่งที่มีประโยชน์และให้ข้อคิดกับนักเรียนและคนทุกคน อ่านแล้วสร้างความตระหนักและนึกคิดได้มากขึ้น การเขียนจดหมายละเอียดและวิชาการมาก แต่เข้าใจง่าย อ่านสนุกครับ
Displaying 1 - 4 of 4 reviews