ความลับของคนที่ไม่เคยเอางานกลับไปทำที่บ้าน

by Mentalist DaiGo, กมลวรรณ เพ็ญอร่าม (Translator)

รวม 18 วิธีฝึกสมาธิที่ได้ผลเร็วและเริ่มต้นได้ง่ายๆ โดยลงมือปฏิบัติจากสิ่งที่เราทำอยู่ทุกวัน ทั้งการกิน การนอน การจัดสภาพแวดล้อม การออกกำลังกาย และการแบ่งเวลา เมื่ออ่าน "ความลับของคนที่ไม่เคยเอางานกลับไปทำที่บ้าน" เล่มนี้จบคุณจะได้ตะโกนออกมาว่า "วันนี้ไม่ต้องเอางานกลับไปทำบ้านแล้ว!"

Genres: Self Help

220 pages, Paperback

Published September 1, 2019

About the author

Associated Names:
* Mentalist DaiGo (English)
* メンタリストDaiGo (Japanese)

Reviews

[Thanawat · Rating 3 out of 5]

“การไม่ต้องเอางานกลับไปทำที่บ้าน” ไม่ได้เกิดขึ้นจากการปรับเปลี่ยนปริมาณงาน หรือบริหารจัดการแจกจ่ายงานไปให้คนอื่นทำใดๆ ทั้งสิ้น
หนังสือเล่มนี้ชี้ให้เห็นว่า “การไม่ต้องเอางานกลับไปทำที่บ้าน” ขึ้นอยู่กับพลังการจัดการตัวเองล้วนๆ
เป็นหนังสือที่บอกว่าจะกลายเป็นคนที่ high productivity นี่ต้องทำยังไงบ้าง

หนังสือเล่มนี้เป็น how-to สไตล์ หนึ่ง-สอง-สาม-สี่
บอกให้ชัดเป็นขั้นตอนเลยว่าต้องทำอะไรบ้าง
ลงลึกถึงรายละเอียดว่า วางปากกาสีไหนไว้บนโต๊ะถึงจะดี แสงสีอะไรเหมาะกับสถานการณ์การใช้ความคิดมากที่สุด จะบริหารเวลาโดยใช้ circadian rhythms อย่างไร ไปจนถึงการจัดตู้เสื้อผ้าแบบสตีฟ จ๊อบส์

เพิ่งรู้ว่าเอากระจกวางไว้บนโต๊ะทำงานจะเพิ่มสมาธิได้!

โครงสร้างหนังสือแบ่งให้เห็นภาพใหญ่ๆ สี่ส่วน
ส่วนที่หนึ่ง เล่าให้เห็นเลยว่า “คนที่ focus กับสิ่งที่สำคัญ” นั่นแหละ เป็นคนที่จะไม่ต้องเอางานกลับไปทำที่บ้าน
เล่าถึงพื้นฐานของสมาธิ (ที่ไม่ใช่เชิงศาสนา) แต่เป็นพลังสมาธิที่จดจ่ออยู่กับงาน รวมทั้งกฎพื้นฐานที่จะช่วยสร้างสมาธิในการทำงาน

ส่วนที่สองจะเรื่องเป็นวิธีการละ อะไรยังไงที่จะช่วยให้เราจดจ่ออยู่กับงานตรงหน้าได้ ถูกเล่าและบอกให้ทำเอาไว้ในบทนี้
มันเห็นภาพว่า “เครื่องยนต์ 7 อย่าง” ที่เราจะใช้ในการผลิตพลังสมาธิระดับสูงได้แก่อะไร และใช้อย่างไร
แถมเครื่องยนต์ที่ว่ายังเป็นสิ่งที่จัดการได้เองไม่ต้องพึ่งใครอีกตะหาก

ส่วนที่สามนี่ชอบเลย เพราะบอกวิธีการรีเซตความเหนื่อยล้าอย่างมีหลักการ ซึ่งจริงๆ แล้วก็แนะนำให้ไปพักให้ไปนอนนั่นแหละ แต่ผู้เขียนใส่เทคนิกย่อยๆ ให้การพักนั้นเป็นการ “บำบัด” ความเหนื่อยล้าไปในตัวได้ล

ส่วนสุดท้ายขอเรียกว่าเป็นการแถม 5 เทคนิค เพื่อ high productivity บางเรื่องบางเทคนิคก็เคยผ่านตา บางเทคนิคก็เป็นเรื่องใหม่ที่เพิ่งรู้
เทคนิกทั้ง 5 ได้แก่
* Morning routine
* Pomodoro
* Ultradian rhythm
* Ivy Lee method
* สร้างที่ว่างในตารางเวลา

อ่านจบแล้วยอมรับว่าเนื้อหาบางอย่าง ใครที่อ่านแนว how-to ต้องผ่านตามาบ้างแน่นอน
อย่างไรก็ตาม หนังสือเล่มนี้เป็น how-to อีกเล่มหนึ่ง ที่สอนให้ stay focus และ be productive เพื่อที่จะ “ไม่ต้องเอางานกลับไปทำที่บ้าน” ด้วยภาษาอ่านเข้าใจง่าย เล่าเป็นขั้นเป็นตอน ทำตามได้เลยตามสไตล์นักเขียนญี่ปุ่น

[Peung Sucha · Rating 4 out of 5]

เรื่องราวในหนังสือชวนอ่าน มีเทคนิคกับการจัดการกับพลังสมาธิ ที่ชวนมองเรื่องรอบตัวให้เป็นเรื่องง่ายต่อการจัดการสมาธิของตัวเอง กฎของสมาธิที่เป็นปัจเจกบุคคล แต่ละคนมีเวลากับการมีสมาธิที่แต่ต่างกัน แต่ก็ต้องเผื่อเวลาให้กับการแบ่งเวลาเพื่อพักด้วย ในหนึ่งสัปดาห์อย่าลืมที่จะหาวันพักให้ตัวเอง ในแต่ละวันมีช่วงเวลาแห่งความขี้เกียจได้ แต่ก็มีช่วงที่จำกัด เมื่อใช้สิทธิ์"เวลาขี้เกียจ" ไปแล้ว พลังสมาธิก็บูสต์อัพขึ้นมาอีกครั้ง

[Tomoko Enomoto · Rating 4 out of 5]

すぐ読み終わる。さすがだね。

[Paul Lin · Rating 4 out of 5]

อันที่จริงแล้ว ชื่อหนังสือภาษาญี่ปุ่นจะหมายถึง "สมาธิ" ที่จะช่วยปรับปรุงเปลี่ยนแปลงตัวเรา โดยไม่กล่าวอ้างถึงความลับใด ๆ

และ "ความลับ" ที่ชื่อหนังสือภาษาไทยพยายามจะสื่อถึงนั้น ก็คือ "สมาธิ" นั่นเอง ซึ่งเมื่อมีสมาธิแล้ว ก็จะสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็วขึ้น

เนื้อหาของหนังสือเล่มนี้ ผมถือว่าดีมาก ๆ เลยนะครับ ผู้เขียนสามารถอธิบายหลักการพื้นฐานเกี่ยวกับ "สมาธิ" ให้เข้าใจได้อย่างง่าย ๆ โดยที่ #ไม่ได้อิงศาสนา ใด ๆ เลย

ครอบคลุมทั้งในแง่ ธรรมชาติของสมาธิ การสร้างและการสูญเสียสมาธิ ตลอดจนการฝึกฝนพลังสมาธิ นอกจากนี้ ก็ยังกล่าวถึงวิธีการพักผ่อนเพื่อลดความเหนื่อยล้าอีกด้วย

ข้อดีมากอย่างหนึ่งของเล่มนี้คือ อ่านแล้วจะได้กำลังใจ และยังลดการกล่าวโทษตัวเอง หรือลดการนึกสงสัยว่า เราโง่หรือเปล่านะ เพราะผู้เขียนพยายามอธิบายว่า เราสูญเสียพลังสมาธิได้ตามธรรมชาติจากกลไกอะไรบ้าง และจะป้องกันการสูญเสียนั้น ตลอดจนสร้างสมาธิขึ้นมาได้อย่างไรบ้าง

เทคนิควิธีที่แนะนำมานั้น แสนเรียบง่าย สามารถทำตามได้ไม่ยาก สามารถประยุกต์ได้กับชีวิตประจำวัน โดยมีทั้งเรื่องการรับประทานอาหาร การออกกำลัง การแบ่งเวลา การจัดท่าทางบุคลิกภาพ การจัดสิ่งแวดล้อม การจัดการอารมณ์ เป็นต้น

โดยสรุปแล้ว หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือที่เกี่ยวกับ "สมาธิ" ในชีวิตประจำวัน ที่ดีมาก ๆ เล่มหนึ่งที่ทุกคนควรจะได้อ่านเลย

[Shane Inouye (Petersen) · Rating 2 out of 5]

I love most of the context of what makes up his book. Many of them I have read in other psychology books. I feel that the Japanese population could use a lot of these studies to help them understand themselves better, thus creating a more meaningful or fulfilling life. Possibly even lower the suicide rate.

I wish he wouldn’t bring up his “accomplishments” as much as he does. A lot of what he says are not relatable. The number of books he reads fluctuates at one point which makes me think he’s just exaggerating.

In the end I wouldn’t recommend this book to anyone unless there are no other books that talk about the psychological studies that he brings up, which there are plenty of.

[Pimmier Srinualdee · Rating 4 out of 5]

แบ่งเป็นตอนสั้นๆ อ่านง่าย เอาไปใช้ได้จริง แนะนำสำหรับคนที่กำลังอยู่ในวงจรงานเยอะที่ดูเหมือนจะไม่มีวันสิ้นสุด

[Ayumeko · Rating 5 out of 5]

Learned some new tricks I hadn't heard of.